กรุงเทพฯ 23 ม.ค.- สตม.แถลงจับ มาเฟียอินเดีย จ้างยิงนักการเมืองท้องถิ่นบ้านเกิด หนีกบดานไทยและคดีอุกฉกรรจ์อีกหลายคดี
พลตำรวจโทณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมนายชาเดรสกูมาร ราเมสไบ ปาเตล อายุ 40 ปี สัญชาติอินเดีย หัวหน้าแก๊งราวีปูจารี ผู้ต้องหาตามหมายจับบงการฆ่านักการเมืองคู่อริ รัฐคุชราชในประเทศอินเดีย
พลตำรวจโทณัฐธรระบุว่า นายชาเดรส เดินทางเข้ามาประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว โดยจะครบกำหนดให้วันพรุ่งนี้ (24 ม.ค.) ซึ่งหลังจากนี้จะสอบปากคำในหลายประเด็นว่ามีการก่อเหตุในประเทศไทยคดีอื่นอีกหรือไม่ และตรวจสอบว่าสั่งการในประเทศไทยหรือสั่งก่อนจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถสอบสวนได้ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เบื้องต้นพบข้อมูลว่ามารดาของนายชาเดรส มีความขัดแย้งกับนักการเมืองเรื่องธุรกิจโทรคมนาคม
ส่วนคดีที่สอง จับกุมนายลาโยช แดอากี และนายลอโยชเน แดอากี สองสามีภรรยาสัญชาติฮังการี บุคคลตามหมายแดงของตำรวจสากลในคดีฉ้อโกงหลายคดี โดยผู้ต้องหาหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อ 4 ก.ค. 2552 ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ต่อมาได้ยื่นวีซ่าขออยู่ต่อประเภทใช้ชีวิตปั้นปลาย จำนวน 8 ครั้ง ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจค้นเข้าเมืองได้รับข้อมูลจากประเทศฮังการี จึงสืบสวนหาข่าว และดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เข้าควบคุมตัวบุคคลทั้งสองได้ที่บ้านใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ชลบุรี
และคดีที่สาม จับกุมนายจาง ชิงตวน อายุ 38 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน โดยพฤติการณ์นายจาง กับพวกได้ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายชาวจีนกว่า 30,000 ราย ให้ร่วมลงทุนใน “กองทุนหมิงจู๋” เพื่อนำเงินดังกล่าวไปลงทุนธุรกิจทางด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และหลอกว่าจะจ่ายเงินปันผลในจำนวนที่สูง รวมทั้งให้สมาชิกชักชวนเพื่อนฝูงมาร่วมลงทุนในลักษณะลูกโซ่ แลกกับค่าคอมมิชชั่นจากการหาสมาชิกอีกด้วย โดยใช้วิธีการสร้างความเชื่อถือ มีการจัดประชุมสัมมนา และจัดตั้งกลุ่มโซเชียล (วีแชท) ส่งข้อมูลข่าวสารให้กับสมาชิก ชักชวนให้สมาชิกมาเข้าร่วมกิจกรรม ในคดีนี้มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงกว่า 30,000 คน กระจายอยู่ทั่วประเทศจีนกว่า 30 มลฑล มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ก่อนหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย โดยใช้สิทธิ Thailand Privilege ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ในย่านพัทยาเหนือ ชลบุรี อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ มาตรา 12 อนุ 7 และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
พลตำรวจโทณัฐธรกล่าวถึงกรณีการส่งตัวนายฟรายเฟอร์ ซเดเน็ค สัญชาติเช็ก ผู้ต้องหาตามหมายจับของตำรวจสากลในฐานะอาชญากรข้ามชาติว่า ยืนยันภายในอีก 1-2 วัน จะมีความชัดเจน กรณีการส่งตัวกลับประเทศ ทั้งนี้ มีข้อมูลยืนยันว่านายฟรายเฟอร์ก่อคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กแล้วหลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในเมืองไทย และเป็นบุคคลอันตราย ที่พบว่ามีการแพร่เชื้อเอดส์ ก่อนถูกตำรวจจับตัวได้ที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอยู่ระหว่างการประสานนำผู้ต้องหาไปส่งยังประเทศต้นทาง เนื่องจากทางการไทยไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่มีสายการบินไปยังประเทศปลายทางโดยตรง ทำให้ต้องมีการต่อสายการบินในฝั่งยุโรป อีกทั้งผู้ต้องหามีลักษณะโครงสร้างสูงใหญ่ เกรงว่าจะหลบหนีระหว่างควบคุมตัว รวมทั้งสายการบินพาณิชย์ในไทยปฏิเสธที่จะรับตัวผู้ต้องหาขึ้นเครื่อง จึงร้องขอให้ทางการเช็ก ส่งเจ้าหน้าที่มารับตัวผู้ต้องหากลับไปดำเนินคดีในประเทศ เชื่อว่าภายในสัปดาห์นี้จะดำเนินการได้.-สำนักข่าวไทย