สหรัฐ 10 ก.พ.-ความสัมพันธ์ ระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นกำลังน่าจับตามองมากที่สุด โดยนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น เดินทางเยือนสหรัฐแล้ว นับเป็นผู้นำเอเชียคนแรกที่ได้พบหารือกับนายทรัมป์อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการลุ้นระลึกว่าทรัมป์จะเอาใจออกห่างญี่ปุ่นเหมือนที่เขาเคยประกาศไว้หรือไม่
นายอาเบะ เดินทางถึงกรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้ท่ามกลางความหวังในการโน้มน้าวใจนายทรัมป์ให้หันมาผูกมิตรใกล้ชิดกับญี่ปุ่นเหมือนเดิม โดยอาเบะเยือนสหรัฐครั้งนี้ พร้อมแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจ้างงานในสหรัฐมากมายถึง 700,000 ตำแหน่ง ผ่านโครงการความร่วมมือระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นมีแผนจะเข้าไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี หวังซื้อใจนายทรัมป์ให้มองว่า ญี่ปุ่นคือพันธมิตรยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของสหรัฐในทวีปเอเชียไม่ใช่จีน
ก่อนหน้านั้นทรัมป์พูดเสมอว่า ญี่ปุ่น จีน และเม็กซิโก คือตัวการใหญ่ที่ทำให้สหรัฐขาดดุลย์การค้ามหาศาล โดยเฉพาะการค้าอุตสาหกรรมรถยนต์ ที่ไม่เป็นธรรมกับสหรัฐ พร้อมกันนั้นทรัมป์กล่าวหาญี่ปุ่นว่าจงใจปล่อยให้เงินเยนอ่อนค่า เพื่อให้ได้เปรียบในการส่งออกนายอาเบะเยือนสหรัฐพร้อมด้วยนายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังและนายฟูมิโอะ คิ ชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศ สำหรับแผนการสร้างงาน 700,000 ตำแหน่งในสหรัฐนั้น ญี่ปุ่นจะสนับสนุน ให้ภาคเอกชนเข้าไปลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่นรถไฟความเร็วสูง
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าเวลานี้ญี่ปุ่นได้ล้มเลิกแผนการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในเม็กซิโกแล้ว โดยจะหันไปสร้างในสหรัฐแทน หลังนายทรัมป์ออกมาประท้วง แผนการของญี่ปุ่น ในการสร้างโรงงานการผลิตในเม็กซิโก โดยทรัมป์ขู่ว่ารถยนต์ญี่ปุ่นที่ผลิตในเม็กซิโกแล้วส่งเข้ามาขายในสหรัฐ จะต้องเจอกำแพงภาษีมหาโหด ความเคลื่อนไหวล่าสุดของญี่ปุ่นมีขึ้น เพื่อเอาใจนายทรัมป์ที่กำลังต่อต้านนโยบายการค้าเสรีของประเทศต่างๆ ที่ทรัมป์มองว่า ทำให้อเมริกาเสียเปรียบ.-สำนักข่าวไทย