นครสวรรค์ 14 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมประมงจับจระเข้ที่คาดว่า ถูกนำมาปล่อย พบมีพฤติกรรมดุร้ายเนื่องจากหวงไข่ ล่าสุดนำไปอนุบาลที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ เมื่อลดความดุร้าย จะปล่อยคืนธรรมชาติ
นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 12 (นครสวรรค์) กล่าวถึงจระเข้น้ำจืดเพศเมียที่เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดและเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์จับจากริมถนน ข้างศาลเจ้าแม่หมอนทอง หมู่ 5 ต.พระนอน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เนื่องจากชาวบ้านแจ้งเข้ามายังเจ้าหน้าที่ หลังพบจระเข้ตัวขนาดใหญ่พยายามวิ่งเข้าทำร้าย ซึ่งบริเวณดังกล่าวติดกับถนนทางไปอนุเสาวรีย์นกน้ำซึ่งอยู่ห่างไม่ไกลจากศาลเจ้าแม่หมอนทอง 200-300 เมตร ของศูนย์อุทยานนกน้ำ คาดว่า เป็นจระเข้เลี้ยงที่ถูกนำมาปล่อย ระหว่างเข้าจับ มันมีพฤติกรรมดุร้ายและพยายามเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา จากนั้นได้นำมาเลี้ยงในบ่ออนุบาล ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ ภายในบริเวณพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติในช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยจระเข้ตัวนี้ยาว 2.20 เมตร ขณะนี้มีสุขภาพแข็งแรงดีมาก
ที่บริเวณเดียวกันพบไข่จระเข้ 8 ฟอง เป็นไข่ขนาดปกติ 7 ฟองและอีก 1 ฟองเป็นไข่ที่มีลักษณะลีบไม่สมบูรณ์ โดยนายสุพัตร์ ศรีพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ยืนยันผลการตรวจสอบว่า เป็นไข่ไม่มีเชื้อคือ ไม่ได้รับการผสมจากตัวผุ้ ดังนั้นจึงไม่สามารถฟักเป็นตัวได้ ขณะนี้ไข่จระเข้ทั้งหมดยังฝากให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ดูแล
ทั้งนี้นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชให้นโยบายการปล่อยจระเข้คืนสู่ธรรมชาติว่า ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการ ทั้งจระเข้ เจ้าหน้าที่ และประชาชนต้องปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ประชุมกัน แล้วเห็นว่า ปกติแล้วจระเข้จะลดความดุร้ายลง หลังจากไม่มีไข่อยู่ใกล้ตัวประมาณ 15 วัน ซึ่งสบอ. 12 จะหารือทุกฝ่ายเพื่อหาทางปล่อยจระเข้คืนสู่ธรรมชาติซึ่งกำหนดว่า จะเป็นที่บึงบอระเพ็ดต่อไป. – สำนักข่าวไทย