กระบี่ 15 พ.ค. – 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีฆ่าฝังดินนายสุชาติ ขาวล้วน เข้ามอบตัว ให้การซัดทอด “บังฟิต” เหนี่ยวไก 2 นัด ก่อนช่วยกันหามไปฝังดินในสวนยางพารา ตำรวจเร่งระดมทีมล่าผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี
ความคืบหน้าคดีฆ่าฝังดินนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 54 ปี ชาว อ.ลำทับ จ.กระบี่ ที่หายตัวไปนานเกือบสัปดาห์ กระทั่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบศพถูกฝังดินในสวนยางพารา บ้านหนองแบก ม.1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ สภาพศพน่าเปื่อย มีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่ศีรษะและราวนมซ้าย มีร่องรอยถูกราดด้วยน้ำยาฆ่ายางลงบนศพ ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 2 ปลอก ห่างออกไปอีก 700 เมตร พบรถยนต์ของนายสุชาติถูกเผาฝังดิน โดยปมสังหารน่าจะมาจากความขัดแย้งเรื่องหนี้สิน ที่ผู้ตายไปทวงกับนายสุริยา หรือบังฟิต อายุ 32 ปี ที่ยืมเงินไป 300,000 บาท ในพื้นที่ ต.หนองทะเล ก่อนจะถูกสังหารโหด ซึ่งศาลจังหวัดกระบี่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แล้ว 3 คน คือนายสุริยา นายสุรชัย หรือกิบหลี อายุ 38 ปี พี่ชาย และนายสุวิทย์ อายุ 26ปี ญาติอีกคน
ล่าสุดนายสุวิทย์ 1 ใน 3 ผู้ต้องหาตามหมายจับ เข้ามอบตัวที่ สภ.อ่าวนาง เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนถูกควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุภายในสวนยางพารา วันเกิดเหตุบังฟิตชักชวนตนกับพวก และผู้ตาย รวม 5 คน ไปจุดเกิดเหตุที่เขาโต๊ะหลวง ริมสวนยางบ้านหนองแบก จุดที่พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. โดยนายสุวิทย์ได้ชี้จุดที่บังฟิตขับรถกระบะแคปอีซูซุสีขาว ทะเบียน บพ8680 กระบี่ มาจอด ซึ่งตนนั่งมาในรถกระบะบังฟิตด้วย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้พาผู้ตายลงจากรถ แล้วบังฟิตก็ใช้ปืนยิงผู้ตาย 2 นัดจนเสียชีวิต ก่อนบังฟิตและพวก 3 คน จะนำผู้ตายไปฝัง ขณะเกิดเหตุตนหันหลัง ไม่ได้มอง แต่เป็นผู้ที่ไปว่าจ้างรถแบ็กโฮให้มาขุดหลุมในจุดฝังรถ โดยนายสุรชัย หรือนายกิบหลี ให้เงินไป 2,000 บาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายสุวิทย์ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.อ่าวนาง รวมทั้งขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
อีกด้านหนึ่งชุดสืบสวนกำลังเร่งติดตามตัวบังฟิต และกิบหลี 2 พี่น้อง รวมถึงลงพื้นที่หาจุดที่คาดว่าบังฟิตนำปืนที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้ง เพื่อค้นหาปืนกระบอกที่ก่อเหตุ ส่วนการชันสูตรศพของนายสุชาติ ผู้เสียชีวิต ตำรวจได้รับการประสานจาก โรงพยาบาลว่าผลการผ่าศพเบื้องต้นไม่พบหัวกระสุนที่คาดว่ายังฝังอยู่ในร่างผู้ตาย ทำให้ต้องนำศพไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกรอบ เพื่อหาหัวกระสุน ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดีนี้.-สำนักข่าวไทย