“สุชาติ” ให้กำลังใจผู้ใช้แรงงาน

กทม. 1 พ.ค.-“สุชาติ” รมว.แรงงาน ให้กำลังใจผู้ใช้แรงงาน ในวันแรงงานแห่งชาติ ยัน ก.แรงงาน มุ่งขับเคลื่อนนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิต ดูแลแรงงานดุจคนในครอบครัว

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้กำลังใจผู้ใช้แรงงานเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2564 ก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน ยืนยัน รัฐบาลและกระทรวงแรงงานตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ดูแลแรงงานดุจคนในครอบครัว


เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2564 รัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ตระหนักถึงความสำคัญของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน จึงได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกสาขาอาชีพทั้งในและต่างประเทศ และเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติในปีนี้ ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน จึงถือโอกาสนี้ขอบคุณพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่มีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่เศรษฐกิจและสังคมมาโดยตลอด และขออวยพรให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกท่านมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ปลอดภัยจากโรคโควิด-19

นายสุชาติ ยังกล่าวถึงนโยบายของกระทรวงแรงงาน ที่จะดำเนินการใน 5 ด้าน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ดังนี้ 1) ด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน พัฒนาทักษะฝีมือให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน โดย Up-Skills & RE-Skills และ New-Skills โดยเน้นอาชีพใหม่ภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย จัดฝึกอบรมหลักสูตรออนไลน์เพื่อแรงงานทั้งในและนอกระบบ เช่น ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร เทคนิคการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น สนับสนุนเงินทุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปพัฒนาทักษะฝีมือลูกจ้างในสถานประกอบการ 2) ด้านการหางานให้ทำ จัดหาตำแหน่งงานว่างทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันมีตำแหน่งงานว่างแล้วจำนวนกว่า 200,000 อัตรา รวมทั้ง สนับสนุนการจ้างงานในพื้นที่ เพื่อรักษาสภาพการจ้าง พัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการสมัครงาน โดยพัฒนาแอพพลิเคชั่นให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างนายจ้าง แรงงาน และสถาบันฝึกอบรมได้อย่างง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น เพิ่มทักษะแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศ โดยอบรมให้ความรู้แก่แรงงานไทยก่อนเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เช่น ทักษะด้านภาษา เทคโนโลยี กฎหมาย วัฒนธรรมความเป็นอยู่แต่ละประเทศ เป็นต้น 3) ด้านสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานหลังเกษียณ ภายใต้โครงการ ‘แรงงานพันธุ์ดี’ โดยจะดำเนินการนำร่องในสถานประกอบการเพื่อเป็นต้นแบบ จำนวน 9 แห่ง เพื่อให้แรงงานที่เตรียมตัวจะเกษียณสามารถนำความรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้และเลี้ยงดูตนเองหลังเกษียณ ปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยการพิจารณากฎหมายของกระทรวงแรงงานทุกฉบับไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกัน และแก้ไขปรับปรุงสาระสำคัญให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ด้านแรงงานที่เป็นปัจจุบัน แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานเพื่อมุ่งสู่เทียร์ 1 โดยกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสถานประกอบการอย่างเคร่งครัด บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รวมทั้ง ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้นายจ้างใช้แรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช้แรงงานเด็กหรือแรงงานบังคับ ยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ โดยให้การดูแล คุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาด้านอาชีพ โดยการปรับปรุงวัตถุประสงค์และรายละเอียดของกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำงานที่บ้านให้ครอบคลุมแรงงานนอกระบบในทุกกลุ่มอาชีพ ดูแลและคุ้มครองแรงงานกลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม) ด้วยการส่งเสริมและพัฒนาด้านการประกอบอาชีพ หางานที่เหมาะสมให้ทำ และสร้างหลักประกันทางสังคม 4) ด้านการสร้างหลักประกันทางสังคม ตรวจโควิด-19 เชิงรุก เพื่อผู้ประกันตน ตามโครงการแรงงาน…เราสู้ด้วยกัน บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด และ สปสช. ดำเนินการตรวจโควิด-19 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ซึ่งจะดำเนินการจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย เร่งจ่ายเงินทดแทนกรณีว่างงานจากผลกระทบโควิด-19 เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับเงินเยียวยาสำหรับนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในช่วงที่การแพร่ระบาดยังไม่คลี่คลาย ปล่อยเงินกู้ให้กับผู้ประกอบการในการรักษาการจ้างงานในวงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ให้คงสภาพการจ้างงาน จัดตั้งสถาบันการแพทย์เพื่อผู้ใช้แรงงาน เป็นโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และ 5) ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อบริการด้านแรงงาน ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลด้านแรงงานให้มีประสิทธิภาพ โดยการสร้าง Big Data ด้านแรงงานให้ครอบคลุมทุกภารกิจและสามารถเชื่อมโยงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบให้บริการแก่แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ โดยพัฒนาระบบ Line official account ชื่อ ‘น้องสิทธิ’ เพื่อเป็นช่องทางติดต่อสื่อสาร สอบถามสิทธิประโยชน์ต่างๆ สามารถดาวน์โหลดคู่มือสิทธิประโยชน์และข้อมูลพื้นฐานในประเทศที่ไปทำงาน เช่น ค่าจ้างขั้นต่ำ ชั่วโมงการทำงาน วันหยุด เป็นต้น


“ผมขอให้กำลังใจพี่น้องผู้ใช้แรงงานก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน เราจะมุ่งขับเคลื่อนนโยบาย
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลแรงงานดุจคนในครอบครัว เพื่อพัฒนาแรงงานให้มีศักยภาพสูง มีความมั่นคง สามารถดำรงชีพได้อย่างยั่งยืนต่อไป” นายสุชาติ กล่าวในท้ายสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย