เร่งแก้ปัญหาที่ทำกิน ขยายตลาดสินค้าเกษตร

กรุงเทพฯ 31 มี.ค.-“พล.อ.ประวิตร” สั่งเร่งแก้ปัญหาที่ทำกิน ขยายตลาดสินค้าเกษตร หลังประชาชนได้รับผลกระทบจากโควิด หวังให้มีรายได้ คุณภาพชีวิตดีขึ้น

พล.ต.อ เฉลิมเกียรติ ศีวรขาน ในฐานะประธานคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน(บจธ.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งกำกับดูแล บจธ. มีความเป็นห่วงความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยมอบนโยบายสู่การปฏิบัติเรื่องที่ดินทำกินเพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจนมีที่ดินเป็นของตนเอง โดยให้บจธ. บูรณาการร่วมกับส่วนราชการ ภาคประชาชน และเอกชนแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นายกุลพัชร ภูมิใจอวด ผู้อำนวยการ บจธ. กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินโดยการกระจายการถือครองที่ดิน เพื่อจัดหาและพัฒนาที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกรไปแล้ว ภายใต้โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน จำนวนกว่า 467 ครัวเรือน รวมเป็นพื้นที่กว่า 1,230 ไร่ เกษตรกรได้เพาะปลูกตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ มีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตร มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเห็นภาพอย่างเป็นรูปธรรม ชุมชนเข้มแข็งได้โดยชุมชน

“เดือนพฤษภาคม 2564 บจธ.จะพัฒนาและขยายตลาดสินค้าเกษตรปลอดภัยของชุมชนยกระดับให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยจะจัดตลาดนัดสินค้าเกษตรปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่มีผลผลิตทางการเกษตรจากกลุ่มสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย หลังจากที่บจธ.เข้ามาช่วยเหลือเพียง 1 ปี กลุ่มสมาชิกได้พัฒนาที่ดินจากที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่า พลิกฟื้นให้เป็นพื้นที่เกษตรปลอดสารพิษใช้ประโยชน์อย่างเต็มพื้นที่ สร้างรายเสริมได้ให้แก่สมาชิกในชุมชนแล้วเฉลี่ย 5,000 – 6,000 บาทต่อเดือน” ผู้อำนวยการ บจธ. กล่าว

นายกุลพัชร กล่าวว่า บจธ.จะประสานความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย ฯลฯ เพื่อสนับสนุนสินค้าเกษตรปลอดภัยของชุมชนยกระดับให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เป็นแหล่งอาหารปลอดภัยที่สำคัญของจังหวัดเชียงรายตามความมุ่งหวังของทั้งสองกลุ่มวิสาหกิจชุมชนนี้ต่อไป คาดว่าจะจัดตลาดนัดสินค้าเกษตรปลอดภัยในพื้นที่ของวิสาหกิจชุมชนไร่นาส่วนผสมเกษตรกรฐานรากช่องโคพัฒนา ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ในเดือนถัดไป.-สำนักข่าวไทย