ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่คดี ”รุกป่าเขาแพง”

กทม. 18 มี.ค. – ลูกชายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวก ต้องลุ้นรอด-ไม่รอดคุก เมื่อศาลฎีกาสั่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ หลังสั่งยกฟ้องจำเลยในคดีรุกป่าเขาแพง เรื่องสำนวนเคลือบคลุม


นายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายนายสุเทพ เทือกสุบบรรณ แกนนำ กปปส. มาศาลอาญา ถนนรัชดาฯ พร้อมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีรุกป่าเขาแพง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายพรชัย ฟ้าทวีพร ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น, นายสามารถ หรือ โกเข็ก เรืองศรี หุ้นส่วน หจก.เรืองปัญญาฯ และนายหน้าขายที่ดิน, นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายสุเทพ ตกเป็นจำเลยที่ 1-4  ในความผิดฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า เหตุเกิดช่วงปี 2543-2544

จำเลยที่ 1 และ 2 ถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ้วถางป่าเขาแพง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวา ส่วนจำเลยที่ 3 และ 4 ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ้วถางป่าเขาแพง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต


หลังเข้าห้องพิจารณาคดีเพื่อฟังคำพิพากษาไม่ถึง 30 นาที นายแทนได้ลงมาจากศาล พร้อมปฏิเสธให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะที่นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ เปิดเผยว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยที่ 1 และ 2 คนละ  5 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 และ 4 ตัดสินจำคุกคนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากพิเคราะห์ว่าเป็นเรื่องร้ายแรง

ต่อมาในชั้นศาลอุทธรณ์ หลังตรวจสำนวนแล้ว ได้พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด โดยในคำพิพากษาระบุว่า สำหรับจำเลยที่ 1 และ 2 สำนวนคดีมีความเคลือบคลุม หรือไม่ชัดเจน ไม่กระจ่างแจ้งในการบรรยายฟ้อง อัยการจึงยื่นฎีกาไปยังศาลฎีกา เพื่อขอให้วินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว โดยผลการวินิจฉัยของศาลฎีกา เห็นว่าสำนวนคดีไม่ได้เคลือบคลุมตามที่ศาลอุทธรณ์พิพากษา จึงเห็นควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ ซึ่งกระบวนการหลังจากนี้ ศาลอุทธรณ์จะเรียกสำนวนคดีในศาลชั้นต้นประกอบกับที่มีการไต่สวนในชั้นอุทธรณ์มาพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อออกคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ใหม่ ซึ่งไม่ทราบว่าต้องใช้เวลามากน้อยเพียงใด เนื่องจากคดีนี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และแม้ว่าตามปกติแล้วศาลจะใช้พยานหลักฐานเดิมที่มีการไต่สวนไปแล้วในการพิจารณา แต่ศาลก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการนัดไต่สวนเพิ่มเติมได้ ส่วนจะมีผลเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาของจำเลยที่ 3 และ 4 หรือไม่ ยังบอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาลในการพิจารณาคดีหลังจากนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน