สหประชาชาติ 20 ธ.ค.- คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแถลงประณามระดับรุนแรงที่สุดจากเหตุก่อการร้ายบุกยิงเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกี โดยประกาศจะนำตัวผู้กระทำผิด เครือข่ายและผู้สนับสนุนมาลงโทษ
แถลงการณ์คณะมนตรีความมั่นคงฯ ประกาศว่า การก่อการร้ายทุกรูปแบบเป็นภัยคุกคามอย่างยิ่งต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และว่าการก่อการร้ายถือเป็นอาชญากรรมไม่ว่าด้วยเหตุผลใดหรือแรงจูงใจใดก็ตาม โดยย้ำว่าเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานทางการทูตภายใต้อนุสัญญาเวียนนาปี 2504 นอกจากนี้คณะมนตรีความมั่นคงฯยังแสดงความเสียใจอย่างยิ่งไปยังครอบครัวของนายอังเดร คาร์ลอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำตุรกีและรัฐบาลรัสเซีย นายคาร์ลอฟซึ่งประจำอยู่ที่ตุรกีมาตั้งแต่ปี 2556 ถูกมือปืนแต่งตัวดีในชุดสูทสีดำผูกเนคไท บุกยิงเสียชีวิตระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ที่พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายศิลปะในกรุงอังการา ก่อนลั่นไกตะโกนว่าอเลปโปและขอแก้แค้น มือปืนถูกตำรวจยิงวิสามัญหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตุรกีกล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคือนายเมฟลุต เมิร์ต อัลตินทาส วัย 22 ปีสังกัดหน่วยตำรวจปราบจลาจลในกรุงอังการามา 2 ปีครึ่ง สำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีรายงานว่า เจ้าหน้าที่บุกค้นบ้านครอบครัวของมือปืน โดยควบคุมตัวแม่ พ่อและพี่สาว รวมถึงบุกค้นที่พักของมือปืนในกรุงอังการา และจับกุมเพื่อนร่วมห้องซึ่งเป็นตำรวจปราบจลาจลเช่นกัน นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวประณามว่าเป็นการก่อการร้ายอย่างไร้เหตุผล และขอแสดงความเสียใจไปยังทางการรัสเซีย แม้ที่ผ่านมารัสเซียและตุรกีจะมีจุดยืนต่างกันจากสงครามในซีเรีย แต่ปัจจุบันได้ร่วมมือกันมากขึ้นเพื่ออพยพประชาชนจากเมืองอเลปโปที่ย่อยยับจากสงคราม นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวมั่นใจว่า การก่ออาชญากรรมอย่างป่าเถื่อนเพื่อขัดขวางการเจรจาสถาปนาความสัมพันธ์ระดับปกติระหว่างรัสเซียกับตุรกี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อปราบปรามการก่อการร้ายในซีเรีย .-สำนักข่าวไทย