กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – ตำรวจ 191 ร่วมกับ อย. และ สมอ. บุกทลายบ้านจัดสรรดัดแปลงเป็นโรงงานคัดแยกถุงมือยางทางการแพทย์ ได้ของกลางถุงมือยาง 400,000 ชิ้น
พ.ต.อ.วรวิทย์ ญาณจินดา รองผู้บังคับการตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 31/163 ซอย 28 หมู่บ้านพฤกษาวิลเลจ หมู่ 17 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่ามีการผลิตถุงมือยางไม่ได้มาตรฐาน สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นคนไทยและต่างด้าว รวม 6 คน คือ น.ส.ณัฐวิมล คำเบ้า อายุ 33 ปี นายจิรายุ สุขสวัสดิ์ อายุ 32 ปี นายดอน อายุ 18 ปี สัญชาติกัมพูชา นางสาวกันหา ซิม อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา นางสาววันนี ลวน อายุ 25 ปี สัญชาติกัมพูชา และนางสมบัติ แก้ว อายุ 48 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมตรวจยึดของกลาง ถุงมือยางแพทย์จำนวนประมาณ 400,000 ชิ้น กล่องบรรจุภัณฑ์ถุงมือยางจำนวนประมาณ 32 กล่อง เครื่องชั่งดิจิตอลจำนวน 1 เครื่อง เครื่องชั่งกิโลจำนวน 1 เครื่อง และเครื่องซีลพลาสติกจำนวน 1 เครื่อง
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ สสจ.จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ก่อนเข้าตรวจค้น โดยมีนายนพ และนางสาวอัน แสดงตนเป็นเจ้าบ้าน จากการตรวจค้นพบว่าเป็นสถานที่ผลิตและเก็บถุงมือยางทางการแพทย์ที่ใช้แล้วและอุปกรณ์การผลิตอีกจำนวนหนึ่งจริง ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 ฐานไม่จดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์ และฐานผลิตซึ่งเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ จึงตรวจยึดของกลางเพื่อตรวจสอบต่อไป พบประวัตินายนพ และนางสาวอัน เคยมีคดีการฉ้อโกงเกี่ยวกับการขายถุงมือยางทางการแพทย์อีกด้วย
เจ้าหน้าที่ สสจ.จังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ถุงมือยางการแพทย์ยี่ห้อนี้ไม่ได้รับการอนุญาตจาก อย. ทั้งนี้ การผลิตหรือนำเข้าถุงมือยางการแพทย์จะต้องได้รับอนุญาตจาก อย. ก่อน จึงขอแนะนำให้ตรวจสอบการได้รับอนุญาตทางเว็บไซต์องค์กรอาหารและยา www.fda.moph.go.th หากพบการลักลอบผลิต นำเข้า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. หรือมาร้องเรียนที่ศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ทุกวัน
หากประชาชนท่านใดพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ผ่านทางโซเชียลมีเดีย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือโทรศัพท์สายด่วน 191 .-สำนักข่าวไทย