fbpx

โจรทุบหัวหลวงตาวัย 66 เจ็บสาหัส หวังชิงทรัพย์

มุกดาหาร 7 ธ.ค. – คนร้ายบุกทำร้ายร่างกายทุบหัวหลวงตาวัย 66 ปี บาดเจ็บสาหัสนอนจมกองเลือด หวังชิงทรัพย์ ก่อนเกิดเหตุมีวัยรุ่นในหมู่บ้านเข้ามาหา ด้านชาวบ้านยืนยันหลวงตาไม่เคยมีปัญหากับใคร


เหตุเกิดที่วัดสว่างเวฬุวัน ต.บ้านซ่ง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร พระที่ถูกทำร้าย คือ พระธิการคูณ กิติคุโณ (หลวงตาคูณ) อายุ 66 ปี โดยที่หน้ากุฏิมีพระและชาวบ้านมามุงดูจุดเกิดเหตุเป็นจำนวนมาก ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติการณ์ของคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยม

นายสิว ผู้พักอาศัยในวัด และเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ช่วงประมาณ 20.00 น. มีวัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามาหาหลวงตา สักพักก็ออกไป จากนั้นหลวงตาก็นั่งสมาธิอยู่ที่หน้าห้องนอนบนกุฏิ ส่วนตนก็กินยานอน กระทั่งเช้าวันที่ 4 ธันวาคม ช่วงประมาณ 06.00 น. ตนได้เดินมาที่กุฏิของหลวงตา เพราะผิดสังเกต เนื่องจากตามปกติหลวงตาจะลุกขึ้นตีระฆัง เพื่อบอกเวลาเตรียมตัวออกบิณฑบาต พบหลวงตานั่งก้มหน้า มีเลือดเต็มใบหน้าอยู่ที่หน้าห้องนอนบนกุฏิ จึงรีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจเข้าตรวจสอบ พร้อมเรียกกู้ชีพมานำตัวหลวงตาส่งโรงพยาบาลมุกดาหาร


เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีรอยแผลแตกคล้ายถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะหลายแผล มีรอยถูกของมีคมบาดคาง 1 แผล รอยช้ำที่ตาซ้าย-ขวา 2 แห่ง ระหว่างนำส่งโรงพยาบาล มีเลือดออกที่หู และเลือดที่บริเวณใบหน้าเริ่มแห้ง คาดว่าน่าจะถูกทำร้ายมาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ทางโรงพยาบาลได้เย็บบาดแผลหลายแห่ง รวมประมาณ 30 เข็ม อาการล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค.) หลวงตารู้สึกตัวแล้ว แต่ยังไม่ค่อยรับรู้อะไร ยังจำความไม่ได้ แพทย์จึงย้ายไปอยู่ห้องพิเศษ เพื่อดูอาการต่อไป

ด้านชาวบ้านบอกว่า เสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เนื่องจากหลวงตาไม่เคยมีปัญหากับใคร และไม่เคยมีศัตรูที่ไหน การทำกับหลวงตาครั้งนี้เป็นการประสงค์ต่อทรัพย์แน่นอน แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีอะไรหายไปบ้าง พบแต่เงินสด 7,900 บาท ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจแล้ว คาดว่าเป็นคนที่ทำร้ายหลวงตา หวังว่าตำรวจจะหาหลักฐานมัดตัวและจับกุมคนร้ายมาลงโทษได้ในเร็ววัน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย