กรุงเทพฯ 22 ต.ค. – เอกชนหวังเปิดสภาสมัยวิสามัญจะได้ทางออกร่วมกัน เชื่อเศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือปีนี้จะดีขึ้น และปีหน้าดียิ่งขึ้นหากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าวิธีเดียวที่จะได้ทางออกของปัญหาการเมือง คือ การพูดคุยกัน ทำงานด้วยกัน ผ่านระบบและกระบวนการของรัฐสภา ว่า นโยบายของนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องดี ที่รัฐบาลดำเนินการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้ามาหารือร่วมกันและเป็นแนวทางหนึ่งในทางออก ซึ่งภาคเอกชนหวังว่าการเปิดสภาฯ ครั้งนี้น่าจะหาข้อสรุป เพื่อจะให้ทุกฝ่ายเข้ามาหารือร่วมกันได้
สำหรับเศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือของปีนี้ หากการเมืองไม่กระทบเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยช่วงที่เหลือปีนี้จะค่อย ๆ ฟื้นตัว เนื่องจากรัฐบาลออกหลายมาตรการช่วยฟื้นเศรษฐกิจ ก็น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้ายปีนี้ดีขึ้น แต่คงไม่ดีอย่างรวดเร็ว
ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 2564 มองว่าหากสถานการณ์โควิด-19 จบลง มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นแน่นอน เพราะไทยเป็นประเทศที่ดูแลเรื่องโควิด-19 ได้ดีมากระดับโลก และเป็นประเทศที่มีการท่องเที่ยวดีระดับโลกดังนั้น หากโควิด-19 จบลงได้การท่องเที่ยวจะกลับมา นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาจำนวนมาก และทำให้ระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุนนักธุรกิจก็จะดีขึ้น ดังนั้น ขอให้รัฐบาลเตรียมมาตรการและมีการจัดการที่ดีรองรับไว้
ส่วนการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ต่อมาตรการพักหนี้นั้น ภาคเอกชนห่วงเอสเอ็มอีรายเล็ก แต่ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากสมาคมธนาคารไทยแล้วว่า พร้อมที่จะดูแลผู้ประกอบการลูกหนี้ทั้งหมด
สำหรับปัจจัยที่ยังกังวลว่าจะเข้ามากระทบเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 หลายประเทศยังคงมีการระบาดมากขึ้น เพราะจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย และการท่องเที่ยวของไทยที่ทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาก็จะได้รับผลกระทบได้ อีกส่วน คือ การเมืองในประเทศ หากสถานการณ์บานปลายมากขึ้น อาจกระทบเศรษฐกิจระยะสั้น.-สำนักข่าวไทย