สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด หั่นจีดีพีปีนี้ติดลบเพิ่มเป็น 8%

กรุงเทพฯ 15 ต.ค. – ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดจับตาการเมืองใกล้ชิด หวั่นกระทบเศรษฐกิจ  พร้อมหั่นจีดีพีปีนี้ติดลบเพิ่มเป็น 8%


นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดของปีไปแล้วในไตรมาส 2  คาดว่า ทั้งปีเศรษฐกิจจะหดตัวร้อยละ 8  หดตัวมากขึ้นจากเดิมคาดว่าหดตัวร้อยละ 5 เพราะการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นกลับมา แม้การส่งออกจะเริ่มฟื้นตัว แต่ตัวเลขการส่งออกปีนี้ยังติดลบ 8%  อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปอย่างช้า จากปัจจัยลบภายในประเทศ และความไม่แน่นอนต่างประเทศ โดยคาดเศรษฐกิจจะฟื้นกลับมาเติบโตที่ร้อยละ 2 ในปี 2564 โดยจะต้องใช้เวลาอีก 2 – 3 ปี เศรษฐกิจไทยจึงจะกลับมาโตร้อยละ 3 – 4 ก่อนเกิดโควิด-19

นายทิม กล่าวว่ายังมีสถานการณ์ต่างๆที่ยังต้องติดตาม โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ต้องติดตามใกล้ชิด และเฝ้าระวังมากขึ้น หลังการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเชื่อว่าสถานการณ์ยังควบคุมได้ โดยหวังการเมืองจะไม่เป็นปัจจัยลบในการกดดันเศรษฐกิจที่กำลังตั้งหลักอยู่  เพราะหากมีความรุนแรงอาจจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในปีหน้า


นอกจากนี้การที่เพิ่งได้ทีมเศรษฐกิจใหม่หลังจากขาดช่วงไปหลายเดือน การเบิกจ่ายจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งจากรัฐบาลและจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังอยู่ในระดับไม่สูงนัก ตลาดการเงินอยู่ในภาวะ “ติดตามดูสถานการณ์” ทั้งหมด  ซึ่งการที่นโยบายรัฐไม่ต่อเนื่อง มีผลทำให้การบริโภคยังไม่ฟื้นตัว โดยคาดหวังมาตรการการคลัง ทั้งช้อปดีมีคืน โครงการคนละครึ่ง  จะกระตุ้นการบริโภคในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้  โดยยอมรับว่า มาตรการการคลังมีความสำคัญมาก แม้ว่าโอกาสที่จะใช้มาตรการการคลังมีน้อยลง หลังจากที่หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นเป็น 40 –  50% เพราะมาตรการการเงินโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยมีข้อจำกัด ดอกเบี้ยนโยบาย อยู่ในระดับต่ำร้อยละ 0.50  ดังนั้นจึงมีความคาดหวังว่าทีมเศรษฐกิจจะสามารถสร้างความเชื่อมั่น เร่งการเบิกจ่าย เร่งการลงทุนของรัฐบาลที่ควรจะนำร่องภาคเอกชนให้มีการลงทุนภายในประเทศ

“จากที่มีการเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจและรอนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทีมใหม่ ในขณะที่การเมืองยังอยู่ในช่วงติดตามดูสถานการณ์ ส่งผลให้ไม่กระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก โดยธนาคารคาดว่าค่าเงินบาทจะอยู่ที่ราว 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในสิ้นปีนี้   เราเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ก็อยู่ในภาวะ “ติดตามสถานการณ์” เช่นเดียวกัน ถ้าสถานการณ์ยังทรงตัวและเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น ธปท.น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% แต่ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงในช่วงในไตรมาสนี้ โอกาสที่ ธปท. จะลดดอกเบี้ยไปที่ 0.25% ก่อนสิ้นปี ก็เป็นไปได้ “นายทิม กล่าว

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสถานการณ์ในต่างประเทศ และการพัฒนาวัคซีน โควิดคาดว่า การท่องเที่ยวจะใช้เวลา 3 – 5 ปี การท่องเที่ยวของไทยจะกลับไปที่จุดก่อนเกิดโควิด-19  หรือมีจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคน . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น