“แพทองธาร” มอง “สนธิ” ประกาศปลุกม็อบ เป็นสิ่งไม่จำเป็น

เชียงใหม่ 29 พ.ย.-“แพทองธาร” มองว่า “สนธิ” ประกาศปลุกม็อบครั้งสุดท้าย ยังเป็นสิ่งไม่จำเป็น หวั่นกระทบท่องเที่ยว ย้ำแม้ยกเลิก MOU ฝ่ายเดียวได้ แต่ควรคุยกันก่อน ยันไม่เคยเห็นประเทศใดสำคัญกว่าประเทศไทย

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และอดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประเมินว่า สถานการณ์การเมืองใกล้สุกงอมแล้ว และประกาศว่า จะลงถนนเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต ว่า เราต้องรักษาความสงบของประเทศให้มากที่สุด ถ้าเราไปประเทศไหนแล้วมีม็อบก็ไม่อยากไป เพราะกระทบกับการท่องเที่ยวและประเทศแน่นอน


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าประชาชนมีข้อเรียกร้องหรือข้อเสนอต่อรัฐบาล เรามีกระบวนการรับฟังเสียงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยื่นจดหมาย ซึ่งรัฐบาลเห็นความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนสำคัญเสมอ แต่การเกิดม็อบนั้น คิดว่า เราพูดคุยกันได้ และมองว่า ยังไม่น่าจะเป็นสิ่งที่จำเป็น

ส่วนนายกรัฐมนตรีจะไปรับด้วยตนเองหรือส่งคนไปรับแทนนั้น นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คงจะต้องรับตามกระบวนการที่วางไว้ ไม่มีอะไรพิเศษในเคสไหน ไม่เช่นนั้น ก็จะมีการวางเคสใหม่เรื่อย ๆ จึงอยากจะให้เป็นไปตามกระบวนการมากกว่า


ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมีการทบทวนเรื่อง MOU 44 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่เดินหน้าเรื่องเดียวคือ การตั้งคณะกรรมการในการเจรจาระหว่าง 2 ประเทศ เรื่อง MOU 44 จะให้ข้อมูลประชาชนเรื่อยๆ ว่า เนื้อหาเป็นอย่างไร ส่วนจะเดินหน้าต่อหรือไม่ ขอให้คุยผ่านคณะกรรมการทั้งสองประเทศดีกว่า

ทั้งนี้ MOU ไทยสามารถยกเลิกในประเทศเดียวได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามหลักของกฎหมายสามารถยกเลิกได้ แต่มีคำถามว่าเราควรจะยกเลิกฝ่ายเดียวหรือไม่ จะต้องมีการคุยกันก่อนว่าควรหรือไม่ควร ซึ่งเมื่อวานได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ก็คุยกันเรื่องทั่วไปว่า ไม่มีประเทศไหนอยากขัดแย้งกันเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ จึงพยายามไม่ให้คนในประเทศเข้าใจผิดไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ส่วนการตกลงเรื่องนี้ควรจะเป็นการคุยกันสองประเทศเพื่อไม่สร้างความแตกแยก

ส่วนการที่รัฐบาลชี้แจงเรื่อง MOU 2544 แต่กลับมีคำถามออกมาเรื่อยๆ อาจจะเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะเป็นประเด็นทางการเมืองหรือไม่ ก็ต้องดู แต่ประเด็นทางการเมืองมีมากมายในทุกวัน ส่วนเรื่องระหว่างประเทศเป็นเรื่องเซนซิทีฟ เป็นคำพูดที่ถ้านายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสื่อสารออกไปประเทศอื่นๆก็จะรับฟังตามนั้น จึงต้องพยามสื่อสารด้วยความระมัดระวังและเห็นอกเห็นใจทั้งสองฝ่าย แต่เรื่องพื้นที่ต่างๆที่คุยกัน เป็นเรื่องการอ้างสิทธิยังไม่มีมีการเคาะใดๆทั้งสิ้น และทั้งไทยและกัมพูชายังไม่เสียประโยชน์อะไร จึงต้องพูดคุยกันก่อน


“ดิฉันเองเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ดิฉันไม่มีทางเห็นประเทศใดสำคัญกว่าประเทศไทย เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจว่า ดิฉันเกิดในแผ่นดินนี้ ไม่มีทางที่จะเห็นที่ไหนดีกว่าบ้านเรา เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจจุดนี้ เราตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพูดคุยด้วยเหตุผล ด้วยการตกลงระหว่างประเทศที่ดีเป็นแบบนั้น”นางสาวแพทองธาร กล่าว

อย่างไรก็ตาม นางสาวแพทองธาร ย้ำว่าเรื่อง MOU44 มีมานานแล้ว เรื่องความแตกแยกที่ทำให้คนเข้าใจผิดไม่มี จึงต้องฟังข้อมูลที่จริงให้ครบ อย่าเอาเป็นเรื่องของกระแสหรือความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศมาทำให้เป็นประเด็น จนกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ จะเป็นเรื่องไม่ดี ตนเองไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น

ส่วนที่มีการยกพระพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ประกาศไหล่ทวีปทวี ตนเองได้ดูเนื้อหาอย่างละเอียด อะไรที่เป็นปัญหาค่อย ๆ ร่วมกันแก้ไข.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น