กทม.22 มิ.ย.- ศาลไม่อนุญาตเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานและอนุญาตเฉพาะคู่กรณีคดีฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาที่ พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกตกเป็นจำเลยฟังการพิจารณาคดี
เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลฯนัดตรวจพยานหลักฐานคดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา อดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้น”เสี่ยชูวงษ์”เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีตำรวจศาล เจ้าหน้าที่ศาลตรวจความเรียบร้อยภายในห้องพิจารณาคดี ขณะที่ชุดหนุมานกองบังคับการปราบปราม เข้าตรวจตราความเรียบร้อย และนั่งประจำในห้องพิจารณาคดีและนอกห้อง
ด้านทีมทนายความพันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ ได้หอบแฟ้มเอกสาร จำนวน 2 กล่องใหญ่ มาประกอบการตรวจหลักฐาน
จากนั้นเวลา 10.31 น.เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวพันตำรวจโทบรรยิน เข้ามาห้องพิจารณาคดี ในชุดนักโทษ มือถือหน้ากากอนามัย สีหน้ายิ้มแย้มไม่มีความกังวลหรือเครียดแต่อย่างใด โดยเดินไปนั่งข้างทนายความพร้อมหยิบหนังสือพิมพ์ของทนายความมาอ่านอย่างสนใจ คาดอ่านข่าวเตรียมแหกคุกของตน จากนั้นได้พูดคุยหารือกับทีมทนายความ
กระทั่งเวลา 10.45 น.ศาลออกนั่งบังลังก์โดยกล่าวว่า ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนตรวจพยานหลักฐานเป็นวันที่ 25 มิถุนายนซึ่งเป็นวันตรวจพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2-6 เนื่องจากยังเตรียมพยานเอกสาร พยานวัตถุไม่พร้อม เนื่องจากมีจำนวนมาก แต่ศาลเห็นว่าไม่มีเหตุจำเป็นต้องเลื่อน และได้ขยายเวลาให้ 30 วันในการส่งหลักฐานทั้งหมด
ด้านพันตำรวจโทบรรยิน ได้แถลงต่อศาลว่า การวางกำลังป้องกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เข้มงวดขนาดนี้ ตนไม่สามารถทำอะไรได้ อีกทั้งถูกย้ายไปเรือนจำบางขวาง ถูกใส่ตรวน ขังห้องเดี่ยว ปฏิบัติเยี่ยงสัตว์ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำให้ไม่สามารถตรวจเอกสาร หลักฐานต่างๆได้ รวมถึงสถานที่เรือนจำไม่สะดวกต่อการอ่านตรวจเอกสารอีกด้วย หากตนได้รับประกันตัวเชื่อว่าภายใน 10 วันจะมีเวลาตรวจดู เตรียมข้อมูล เอกสารทั้ง 10 แฟ้ม ได้มากกว่านี้ หากจะให้ทนายความทำให้ตนจะเสียเปรียบ เพราะทนายไม่ได้ไปอุ้มกับตน รวมทั้งหลักฐานที่เป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ต้องใช้เครื่องมือตรวจสอบ อีกทั้งตนต้องไปสืบพยานที่ศาลอาญาพระโขนงทุกสัปดาห์ในคดีคดีฆ่านายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ตนต้องเตรียมต่อสู้คดีนั้น จนไม่ได้มาสนใจคดีนี้ นอกจากนี้ยังมีข่าวเรื่องตนจะแหกคุก ตนไม่รู้เรื่อง ตนอยู่ในเรือนจำ ถูกพันธนาการตลอดจนเครียดมากถึงขั้นผูกคอตาย แต่โชคดีผู้คุมช่วยจึงยังมาศาลได้ในวันนี้ และทนายความที่ดูคดีนี้ไม่ได้เดินทางมาในวันนี้(22 มิ.ย.) พร้อมขอให้ศาลพิจารณาเลื่อนคดีนี้ หลังเสร็จสิ้นคดีฆ่าเสี่ยชูวงษ์ ที่ศาลจังหวัดพระโขนงได้หรือไม่ เนื่องจากตนอยู่ในภาวะไม่ปกติ ถูกควบคุมเข้มงวดเป็นพิเศษ
พันตำรวจโทบรรยิน ยังขอต่อศาลให้ภรรยาและลูกสาว ซึ่งอ้างว่า กำลังเรียนเป็นผู้ช่วยทนายความ เข้ารับฟังในห้องพิจารณาคดี เพื่อตนจะได้ปรึกษาคดีนี้ด้วยนั้น ศาลชี้ว่า การพิจารณาตรวจพยานหลักฐานคดีนี้เป็นไปในทางลับ รวมถึงเป็นมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าห้องพิจารณา อนุญาตเพียงคู่กรณีเท่านั้น
ทั้งนี้ทนายความพันตำรวจโทบรรยิน จึงได้ขอเลื่อนบัญชีสืบพยานและคำแถลงคัดค้านโจทก์ไปอีก 60 วัน ซึ่งศาลอนุญาต
ขณะที่ผู้พิพากษาอาญากรุงเทพใต้ที่พี่ชายเสียชีวิต ได้ขอโจกท์ร่วมในคดี ซึ่งศาลอนุญาต ทั้งนี้พันตำรวจโทบรรยิน ยังคงปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า ถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้ง จากจำเลยคนอื่น และตนไม่ได้อยู่ในวันเกิดเหตุ
ศาลยังย้ำว่าในวันที่ 25 มิถุนายน จำเลยที่ 2-6 ให้มาตามนัดที่กำหนดไว้เดิมวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เวลา 10.00 น..-สำนักข่าวไทย