กรุงเทพฯ
11 พ.ค.- อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกระบุ เกษตรกรที่ยังรอฝนเพื่อจะเพาะปลูก
ต้องเพาะปลูกให้แล้วเสร็จก่อน 30 มิถุนายน 2563 ย้ำต้องแจ้งความประสงค์ตามแบบ ทบก. 01 ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทั่วประเทศภายใน
15 พฤษภาคมนี้เท่านั้น
เพื่อรักษาสิทธิรับเงินเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19
รวม 15,000 บาทต่อครัวเรือน
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเปิดเผยว่า
ได้จัดส่งรายชื่อหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกรผู้ปลูกพืชที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรไปยังกระทรวงการคลังแล้ว
8,071,216 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 30
เมษายน 2563) สำหรับใช้ในโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและครอบครัว
โดยจ่ายเงินช่วยเหลือโดยตรงผ่านบัญชีธนาคาร 5,000
บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม
สำหรับรายชื่อเกษตรกรกลุ่มที่ 1
ซึ่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2562
และเฉพาะที่ปรับปรุงปี 2563 จำนวน 6.4
ล้านรายนั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งจัดพิมพ์รายชื่อหัวหน้าครัวเรือนเกษตรกร
ติดประกาศในชุมชนตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม
ขณะนี้สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่งเปิดให้บริการโดยไม่เว้นวันหยุด
เพื่อเร่งขึ้นและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรสำหรับผู้ปลูกพืชไว้ก่อนปี 2562
และรับขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่
ซึ่งเป็นเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ไปจนถึงวันที่ 15
พฤษภาคม ระหว่างนี้พบว่า
ยังมีเกษตรกรบางส่วนยังไม่สามารถทำการเพาะปลูกในปีการผลิต 2563/2564
เพราะต้องรอน้ำฝน แต่มีความประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร
ซึ่งจัดเป็นเกษตรกรกลุ่มที่ 3
แต่จะต้องยื่นแบบคำร้องขอขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ที่คาดว่าจะทำการเพาะปลูกไว้ก่อน
โดยส่งแบบคำร้องขอขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือผ่านอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือ
ผู้นำชุมชนได้ ภายใน 15 พฤษภาคมเท่านั้น
เมื่อเกษตรกรได้ปลูกพืชแล้วไม่น้อยกว่า 15
วันหรือก่อน 30 มิถุนายน ให้มาแจ้งยืนยันว่า
ได้เพาะปลูกแล้วกับเจ้าหน้าที่เพื่อบันทึกและตรวจสอบตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้แล้วเสร็จ
และจะสรุปรายงานเสนอคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติม
สำหรับโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
ขอให้เกษตรกรรอผลคัดกรองตรวจสอบสิทธิการเข้าร่วมโครงการ
จากนั้นธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
จะโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารธ.ก.ส. หรือธนาคารอื่นที่แจ้งไว้รวม 15,000 บาทต่อไป.-สำนักข่าวไทย
