สมุทรสาคร 9 พ.ค. – รมว.พลังงานลงพื้นที่สมุทรสาครรับฟังความเห็นคลัง-ปั๊มน้ำมัน และระดมความเห็นนักคิดทำแพคเกจร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจ ย้ำลดชนิดน้ำมันลงแน่ ประกาศรับซื้อไฟฟ้า รฟ.ชุมชน สัปดาห์หน้า ด้านเอกชนเสนอลดภาษีน้ำมันหล่อลื่นและอื่น ๆ เพื่อช่วยสภาพคล่อง
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเลขาธิการ พปชร.ได้ลงตรวจเยี่ยมคลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน จ.สมุทรสาคร ที่ประสบปัญหาด้านยอดจำหน่ายน้ำมันที่ลดลงจากสถานการณ์ที่ประชาชนต้องอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ มีการเดินทางน้อยลง พร้อมกันนี้ยังได้มอบสิ่งของช่วยเหลือในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค และเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบแก่ประชาชนในพื้นที่
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เพื่อรับฟังการดำเนินงานของผู้ประกอบการ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่กระทบหนักจากหตุการณ์โควิด-19 เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รัฐบาลจึงต้องการรับฟังปัญหาทุกภาคส่วนและเร่งแก้ทั้งระดับฐานรากจนไปถึงผู้ประกอบการทุกระดับ โดยในส่วนของกระทรวงพลังงานได้ระดมความเห็นจาก นักคิด นักวิชาการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้ากระทรวงพลังงานจะหารือถึงแพคเกจแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจด้านพลังงาน จะเน้นการดูแลเศรษฐกิจจากฐานราก ส่วนงบประมาณจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยในส่วนของงบประมาณเดิมของกระทรวงพลังงานที่มีอยู่แล้วจะปรับมาให้ตรงวัตถุประสงค์ และอีกส่วนจะต้องพิจารณาสามารถใช้เงินกู้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้หรือไม่ โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าชุมชนจะเป็นหนึ่งในแผนงานกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งสัปดาห์หน้าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะประกาศเปิดรับสมัครประเภท Qick Win รอบแรก 100 เมกะวัตต์ และคาดว่าภายในเดือนมิถุนายนจะอนุมัติโครงการ
“ขณะนี้ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลกำลังจัดทำแพคเกจฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวมอยู่ให้ทุกหน่วยงานรวบรวม กระทรวงพลังงานจะจัดทำแพคเกจร่วมด้วย เช่น โรงไฟฟ้าชุมชน ขณะที่แผนงานด้านการบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชนทำไปบ้างแล้วทั้งลดราคาก๊าซหุงต้ม 45 บาท/ถัง 15 กก. ลดค่าไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน” นายสนธิรัตน์ กล่าว
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ยอดการใช้น้ำมันที่ปรับตัวลดลงเป็นภาระต่อผู้ประกอบการปั๊มน้ำมันที่มีภาระสตอกน้ำมันในถัง และมีภาระเพิ่มขึ้นในช่วงยอดขายตก ทางกระทรวงฯ จะเร่งรัดการปรับลดชนิดน้ำมันบางชนิดลงให้เร็วขึ้น ทั้งกลุ่มเบนซิน และกลุ่มดีเซล จากปัจจุบันมีถึง 9 ชนิด
นายสินธุ์ ครองพาณิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจคลังน้ำมันและน้ำมันหล่อลื่น กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากยอดขายน้ำมันที่ลดลงร้อยละ 30 จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือด้านภาษีทุกด้าน เพื่อช่วยสภาพคล่องผู้ประกอบการ รวมทั้งพิจารณาลดภาษีน้ำมันหล่อลื่นที่จัดเก็บ 5.50 บาท/ลิตรเป็นการชั่วคราว
สำหรับยอดใช้น้ำมันที่ลดลงส่งผลทำให้ผลประกอบการลดลงยอดขอเช่าคลังลดลงเหลือเดือนละ 195 ล้านลิตร จากเดิม 230-250 ล้านลิตร ขณะที่การนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตน้ำมันหล่อลื่นเกิดความล่าช้า เพราะประเทศที่นำเข้าน้ำมปิดประเทศเช่นเดียวกัน และกระทบไปถึงการส่งออกน้ำมันหล่อลื่นที่ประเทศลูกค้า ปิดประเทศ เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย
“เรือส่งออกบางลำออกจากไทยไปแล้วต้องลอยอยู่ในทะเล นาน 2 สัปดาห์ เพราะรัฐบาลอินโดนีเซียปิดประเทศมีน้ำมันหล่อลื่นหลายแสนลิตรขณะนี้กำลังประสาน เพื่อแก้ไขปัญหา” นายสินธุ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย