fbpx

โฆษก กต.ยันดูแลช่วยเหลือ นร.แลกเปลี่ยนที่อาร์เจนตินา

กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุยังไม่ได้รับรายงานกรณีครอบครัวอุปถัมภ์ไล่นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ออกจากบ้านที่อาร์เจนตินา ยันสถานทูตไทยดูแลและให้ความช่วยเหลือนักเรียน AFS และคนไทยในต่างแดนอยู่ตลอด


นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีข้อร้องเรียนของผู้ปกครองนักเรียนแลกเปลี่ยน  AFS ที่พักอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ หรือโฮส ที่อาร์เจนตินา เริ่มถูกจำกัดให้กินเป็นเวลา และมีเด็ก 1 รายถูกให้ออกจากบ้านไปหาบ้านใหม่ เนื่องด้วยมีการปิดประเทศนาน จึงมองว่ารัฐบาลไทยแก้ไขปัญหาล่าช้านั้น ว่า จากกรณีดังกล่าว ขอชี้แจงว่านักเรียน AFS ที่อาร์เจนตินา ที่ผ่านมาไม่เคยทราบว่ามีกรณีครอบครัวอุปถัมภ์ไล่นักเรียนไทยออกมา สถานทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส เคยรายงานว่ามีเด็ก 3 คนที่อยู่ในเมืองที่ไกลมาก (นักเรียนไทยส่วนใหญ่จะอยู่กระจายตามเมืองต่าง ๆ) สถานทูตส่งความช่วยเหลือไปได้ไม่สะดวกและอาจดูแลไม่ทั่วถึง จึงได้ประสานงานกับ AFS และขออนุญาตจากทางการอาร์เจนตินาเป็นกรณีพิเศษ นำมาอยู่ในกรุงบัวโนสไอเรส โดยสถานทูตดูแลอยู่

นายเชิดเกียรติ กล่าวด้วยว่า ส่วนสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์ที่ยากลำบากขึ้นนั้น เป็นเพราะนโยบายการปิดเมืองที่ต่อเนื่องมานาน โดยล่าสุดขยายมาตรการกักตัวไปถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2563 ซึ่งสร้างความยากลำบากในการเดินทางและยังปิดสนามบิน ในชั้นนี้ สถานทูตได้ส่งอาหารแห้งและของใช้จำเป็นไปให้นักเรียน และพยายามติดต่อสื่อสารทุกคนเพื่อต้องการทราบสภาพความเป็นอยู่


“ทั้งนี้ ในช่วง 27 เมษายน -10 พฤษภาคม 2563 ทางการได้ผ่อนปรนมาตรการกักตัวในเมืองเล็ก ๆ ที่ประชากรหนาแน่นน้อยกว่า 5 แสนคน โดยให้ออกจากเคหสถานได้มากขึ้น แต่ไม่รวมกรุงบัวโนสไอเรสและเมืองใหญ่ ก็คงต้องติดตามพัฒนาการต่อไป เข้าใจความห่วงใยของผู้ปกครอง สถานทูตได้พยายามดูแลและให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอด” นายเชิดเกียรติ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้