เบอร์ลิน 17 เม.ย.- นายเยนส์ ชพาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนีเผยวันนี้ว่า เยอรมนีสามารถควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ได้แล้ว เนื่องจากใช้มาตรการควบคุมหลังมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงแรก
นายชพาห์นเผยกับสื่อว่า มาตรการให้ประชาชนอยู่บ้านตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมประสบความสำเร็จด้วยดี ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อลดลงมาก โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อรายวัน ถือว่าเยอรมนีสามารถควบคุมการระบาดได้อีกครั้ง ขณะเดียวกันเยอรมนีจะผลิตหน้ากากอนามัยให้ได้มากถึงสัปดาห์ละ 50 ล้านชิ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป แบ่งเป็นหน้ากากทางการแพทย์ 40 ล้านชิ้น และหน้ากากเอฟเอฟพี2 (FFP2) ที่มีประสิทธิภาพการกรองอยู่ที่ร้อยละ 94 อีก 10 ล้านชิ้น ปัจจุบันเยอรมนียังไม่ได้สั่งให้คนทั้งประเทศต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ต่างจากออสเตรียที่มีคำสั่งนี้แล้ว
นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลประกาศเมื่อวันพุธว่า ร้านค้าเล็ก ๆ จะเริ่มเปิดอีกครั้งตั้งแต่สัปดาห์หน้า ส่วนโรงเรียนจะเริ่มเปิดเป็นบางแห่งตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม แต่มาตรการจำกัดอื่น ๆ จะยังคงใช้อยู่ รวมถึงการห้ามรวมตัวในที่สาธารณะเกิน 2 คน และการจัดงานที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ต่อมาเธอได้อ้างตัวเลขของสถาบันโรเบิร์ต คอคที่เผยเมื่อวานนี้ว่า อัตราการแพร่เชื้อของผู้ป่วยโควิด-19 ในเยอรมนีลดลงเหลือ 1 ต่อ 0.7 คนว่า สมควรแก่การผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองระยะแรก และจะมีการทบทวนสถานการณ์ 2-3 สัปดาห์หลังการผ่อนคลาย แต่ก็เตือนว่า ตัวเลขอาจมีการคลาดเคลื่อนจึงควรต้องระมัดระวังต่อไป อย่ามั่นใจจนเกินไปนัก.-สำนักข่าวไทย