ปตท.ทำแผนนำเข้าแอลเอ็นจี ตลาดจร รับนโยบายกดค่าไฟฟ้า


กรุงเทพฯ 22 ก.พ.-ปตท.ทำแผนนำเข้าแอลเอ็นจีตลาดจรในปีนี้ เจรจาผู้ผลิตก๊าซฯในประเทศลดกำลังผลิต รับนโยบายนำเข้าแอลเอ็นจีราคาถูกกดไม่ให้ค่าไฟฟ้าปรับขึ้น พร้อมขยายตลาดแอลเอ็นจีในอุตสาหกรรม มีคู่ค้าร่วมนับสิบราย


นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.กำลังทำแผนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี ) ในรูปแบบตลาดจร (สป็อต) เข้ามา นอกเหนือจาก การนำเข้าในสัญญาระยะยาว ( Long Term) ในปริมาณ 5.2 ล้านตันต่อปี จากที่ สถานีแอลเอ็นจี มาบตาพุด สามารถรับก๊าซฯได้ 11.5 ล้านตันต่อปี โดยในขณะนี้ได้นำแผนเสนอ กับกระทรวงพลังงาน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน  (สกพ.) ซึ่งเป็นไปตาม นโยบายของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว. พลังงาน ที่ต้องการใช้โอกาสราคาแอลเอ็นจีตลาดโลกราคาถูกนำเข้ามาใช้ เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า และยืดอายุแหล่งก๊าซฯในประเทศ เพื่อสงวนไว้ให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีให้ใช้ได้ระยะยาวนานขึ้น ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า การนำมาเผาผลิตไฟฟ้า 

“ขณะนี้ ปตท.ได้เจรจากับผู้ผลิตก๊าซฯในอ่าวไทย เพื่อลดปริมาณผลิตในการนำมาผลิตไฟฟ้าแล้วนำเข้าแอลเอ็นจีมาทดแทนเพราะราคาถูกกว่า แต่ปริมาณสปอตของ ปตท.จะมากน้อยแค่ไหนต้องรอการพิจารณาจาก กระทรวงพลังงานและ สกพ. โดยในส่วนลดการใช้ก๊าซฯในประเทศนั้นได้เจรจากับผู้ผลิต ไม่ให้เกิดภาระต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าในอนาคต” นายวุฒิกรกล่าว

นายวุฒิกร กล่าวว่า ในขณะนี้เร่งทำแผนส่งออก แอลเอ็นจี ตามนโยบายการเป็นฮับหรือศูนย์กลางการส่งออกมในภูมิภาคนี้ โดยในไตรมาส 3/63 จะเริ่มส่งออกได้ เช่น ไปจีน โดย เรือแบบ ISO Tank Container ซึ่งต้องยอมรับว่า จากการระบาดของ COVID-19 ขณะนี้ ความต้องการ แอลเอ็นจีของจีนลดลง แต่ เชื่อมั่นว่า ในไตรมาส3 นี้ ความต้องการจะกลับมา  โดยการจำหน่ายในจีนนั้น ทาง ปตท.ได้ร่วมมือกับพันธมิตรจีนในการหาผู้รับซื้อจากจีน  ในขณะเดียวกัน ก็ได้หาตลาดขนส่งทางรถยนต์ เพื่อจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่ม CLMV  ส่วนในไทยนั้น ก็ได้มีกลุ่ม ผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรม ที่หันมาใช้ แอลเอ็นจี ทดแทน แอลพีจีและน้ำมันเตาเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้คู่ค้าของ ปตท.มารับแอลเอ็นจี เพื่อขนส่งไปให้ลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 10 รายแล้ว


นายวุฒิกร กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป การนำเข้าแอลเอ็นจี จะผลิตได้เท่าใด การผลิตก๊าซฯจากอ่าวไทย ซึ่งเป็นเพราะการผลิตก๊าซฯจากแหล่งบงกฃ-เอราวัณ จดละลงจาก 2,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เหลือ 1,500 ล้านลูกดบาสศก์ฟุตต่อวัน ในขณะที่ สถานีรับ-จ่ายแอลเอ็นจีแห่งที่ 2 คือ หนองแฟบ 7.5 ล้านตัน/ปี จะเสร็จปี 2565 เมื่อรวมกับสถานีแอลเอ็นจีแห่งที่1 “มาบตาพุด “ 11.5 ล้านตันต่อปีแล้ว ก็จะทำให้ การนำเข้าแอลเอ็นจีและการใช้ก๊าซฯจากอ่าวไทยจะใกล้เคียงกัน ในส่วนนี้ก็ต้องมีการปรับแบน หรือ ช่วงความร้อนของคุณภาพก๊าซฯจะต้องเปลี่ยนแปลงไป  ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้า ก็ต้องมีการปรับปรุงโรงเพื่อรองรับแบนค่าความร้อนใหม่ อย่างไรก็ตาม คาดว่า โรงไฟฟ้าเก่าจะทยอยหมดอายุ โรงใหม่ เครื่องจักรใหม่ ก็จะสามารถรับค่าความร้อนใหม่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงตามแหล่งก๊าซฯที่เข้ามาได้ โดยในเรื่องนี้ ทาง ปตท.ได้แจ้งแก่ สกพ.และกระทรวงพลังงานรับทราบแล้ว-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

ซุ้มไฟเฉลิมพระเกียรติฯ สุดตระการตา รับประเพณียี่เป็ง

ยามค่ำคืนในตัวเมืองเชียงใหม่ ประดับประดาด้วยแสงไฟรับประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทงเชียงใหม่ โดยเฉพาะบนถนนท่าแพ มีการสร้างซุ้มประดับไฟเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน 14 ซุ้ม ยาวกว่า 200 เมตร.

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมรีดทรัพย์ รับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพื่อขายงาน

“ฟิล์ม รัฐภูมิ” ตั้งโต๊ะแจงปมเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท จากดิไอคอน ยอมรับอ้างชื่อ “หนุ่ม กรรชัย” เพราะต้องการขายงาน

คุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง เจ้าตัวเงียบรีบเดินขึ้นรถตู้

ตำรวจกองปราบคุมตัว “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ฝากขัง ผู้ต้องหาปัดตอบสื่อ ด้านพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี