กรุงเทพฯ 20 ก.พ.- พนักงานสอบสวน สน.พญาไท คุมตัวผู้ต้องหายิงอดีตภรรยาเสียชีวิต ในคลินิกเสริมความงามที่ห้างสรรพสินค้าย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปขออำนาจศาลฝากขัง โดยไม่มีญาติยื่นประกันตัว ก่อนถูกนำตัวไปคุมขังทันที ด้านแม่ผู้ต้องหาขอโทษครอบครัวผู้ตาย แต่ไม่มีเงินไปร่วมงานศพ
พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ควบคุมตัวนายดนุสรณ์ นุ่มเจริญ หรือ “เจ” อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาใช้ปืนขนาด .45 ยิง น.ส.ปิยานุช ฉัตรไทย อดีตภรรยาจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังเป็นครั้งแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ทั้งนี้ เมื่อนำตัวผู้ต้องหาไปถึงศาลอาญาเพื่อเข้าสู่กระบวนการยื่นคำร้อง ปรากฏว่าไม่มีญาติเดินทางมาประกันตัวนายดนุสรณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที
สำหรับนายดนุสรณ์ รับสารภาพว่า ก่อเหตุยิงอดีตภรรยาจริง ทำไปเพราะหึงหวง จากนั้นหลบหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.เพชรบุรี กระทั่งตำรวจทราบเบาะแสและเข้าเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ก่อนถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.พญาไท และแจ้งข้อหา 5 กระทง ทั้งฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธโดยไม่มีเหตุอันควรและไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ มีโทษสูงสุดคือประหารชีวิต
แม่ผู้ต้องหาขอโทษครอบครัวผู้ตาย แต่ไม่มีเงินไปร่วมงานศพ
ขณะที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา แม่ของผู้ต้องหาได้เข้าเยี่ยม พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า ลูกชายเครียดหนัก และที่ทำไปเพราะหึงหวง เนื่องจากรักผู้ตายมาก ตอนนี้รู้สึกสำนึกแล้ว เพราะระหว่างก่อเหตุขาดสติยั้งคิด นอกจากนี้ ลูกชายยังเล่าว่า ระหว่างถูกคุมขังปรากฏว่าผู้ตายมาเข้าฝัน จึงได้แนะนำไปว่าให้ก้มหน้ารับโทษตามความผิด พร้อมกันนี้แม่ของผู้ต้องหาฝากขอโทษไปยังพ่อแม่ของฝ่ายหญิงด้วย เพราะคงไม่ได้เดินทางไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลเนื่องจากไม่มีเงิน ได้แต่ภาวนาให้ดวงวิญญาณอดีตลูกสะใภ้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ส่วนปมปัญหาระหว่างลูกชายกับอดีตลูกสะใภ้ ยอมรับว่าทราบเรื่องจนนำไปสู่การหย่าร้างและเริ่มชีวิตใหม่ แต่ลูกชายยังรักผู้ตายมาก อีกทั้งยังเคยห้ามลูกชายไม่ให้ไปทำร้ายอดีตลูกสะใภ้มาแล้ว
ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังโศกเศร้าหนัก ตั้งสวดศพคืนแรก
ส่วนความเคลื่อนไหวที่บ้านท่าไผ่ ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำศพของ น.ส.ปิยานุช เดินทางกลับถึงบ้านเกิด ทางครอบครัวมีการตั้งศพบำเพ็ญกุศลคืนนี้เป็นคืนแรก โดยทั้งหมดยังอยู่ในอาการโศกเศร้า โดยเฉพาะนางตุ๋ย ฉัตรไทย แม่ของผู้ตายที่ยังร้องไห้ตลอดเวลา ทั้งนี้ ศพของ น.ส.ปิยานุช ต้องตั้งที่ใต้ถุนบ้าน เพราะบ้านหลังเล็ก คับแคบ โดยมีเพื่อนบ้านร่วมบริจาคทุนทรัพย์และนำข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมทำบุญ จึงร้องขอให้ภาครัฐเข้าให้การช่วยเหลือ ซึ่งจะมีกำหนดพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์นี้
สำหรับการเสียชีวิตของ น.ส.ปิยานุช ทำให้ครอบครัวยากลำบากมากขึ้น เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว อีกทั้งหลังจากนี้ครอบครัวต้องดูแลลูกของ น.ส.ปิยานุช ที่ขาดทั้งพ่อและแม่อีกด้วย
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ได้รับข้อมูลเอกสารกรณีที่ น.ส.ปิยานุช เคยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สน.พญาไท หลังถูกนายดนุสรณ์ ข่มขู่และทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นอีกเพียงไม่กี่วันให้หลัง ทั้งคู่จึงหย่าร้าง ก่อนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น.-สำนักข่าวไทย