fbpx

รอง ผบ.ตร. ยันถอดบทเรียนก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ

รัฐสภา 19 ก.พ.-รอง ผบ.ตร. ยันถอดบทเรียน ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่สาธารณะ อบรม รปภ. ขอประชาชนช่วยสอดส่อง รับศึกษาโมเดลต่างประเทศเป็นแนวทาง 


พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงมาตรการในการดูแลพื้นที่สาธารณะ หลังเกิดเหตุใช้อาวุธปืนยิงในพื้นที่สาธารณะบ่อยครั้ง โดยเฉพาะล่าสุดเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ตำรวจได้มีการหารือกันเพื่อหาแนวทางแก้ไข ขณะเดียวกันประชาชนต้องช่วยกันสอดส่อง ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด หรือทุกที่ จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยตำรวจจะเข้าไปให้ความรู้ หรือให้คำแนะนำวิธีการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เช่น วิธีการระบุตำแหน่งคนร้าย หรือการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดเหตุในห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะต้องติดตามและดำเนินการต่อไป ส่วนการทบทวนมาตรการต่าง ๆ ได้ย้ำไปแล้วว่ามีหลายมาตรการ รวมถึงแนวทางที่จะต้องถอดบทเรียนและทบทวน เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา

ส่วนปัญหาการครอบครองอาวุธปืนนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่ดูแลเรื่องการอนุญาต คงต้องประสานการดำเนินการและพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือกระทรวงมหาดไทย โดยต้องพิจารณาให้ได้ข้อยุติ และมีกติกา รวมทั้งเหตุผลรองรับ จึงจะสามารถกำหนดมาตรการควบคุมดูแลที่เข้มข้นกว่าเดิมในการครอบครองอาวุธปืน ท่ามกลางเหตุการณ์ช่วงนี้ที่เกิดเหตุการณ์บ่อยครั้ง ซึ่งยังตอบไม่ได้ เชื่อว่าหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องมีการคุยกัน พร้อมยอมรับว่า Active Shooter ของต่างประเทศ ก็เป็นแนวทางที่พิจารณาศึกษาโมเดลดังกล่าว แต่ต้องดูบริบทของประเทศไทยด้วยว่าจะทำได้หรือไม่


“ในพื้นที่ห้างฯ ต้องมีการซักซ้อมแผนของเจ้าหน้าที่ รปภ. หากเกิดเหตุ ต้องสามารถระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุได้ และกล้องวงจรปิด รวมถึงข้อมูลของเจ้าหน้าที่ห้องควบคุม เพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย ไม่ใช้วิ่งย้อนไปเจอคนร้าย ซึ่งมีรายละเอียดจำนวนมาก ต้องทำความเข้าใจ และให้ความรู้แก่ประชาชนและในสถานการศึกษา” พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย