“หนี ซ่อน สู้” เอาตัวรอดจากเหตุกราดยิง

จุฬาฯ11ก.พ.-ศัลยแพทย์ร่วมถอดบทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิง แนะวิธีเอาตัวรอด ด้วยการ “หนี ซ่อน สู้” เตือนนักแชทให้สนใจสิ่งรอบตัวและสัญญาณอันตรายเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อ


คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  จัดเสวนา “Escape and Survive in Mass Shooting” รวบรวมวิทยากรแพทย์จากหลากหลายสาขามาให้ข้อมูลและวิธีการในการหลบหนีและเอาตัวรอดจากสถานการณ์การกราดยิง เพื่อให้ความรู้และถอดบทเรียนจากเหตุกราดยิง ที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับความสนใจจากบุคคลากร แพทย์ พยาบาล นิสิต และประชาชนทั่วไปมารับฟังอย่างเนืองแน่น 


รศ.นพ.รัฐพลี ภาคอรรถ ภาควิชาศัลยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาตไทย กล่าวถึงการเอาตัวรอดจากการกราดยิง ว่า โดยทั่วไปเมื่อเจอสถานการณ์กราดยิง สิ่งแรกที่ควรทำคือการหนีเอาตัวรอด หนีออกมาให้ไกลที่สุดจากจุดเกิดเหตุ แต่ถ้าหนีไม่ได้ทางออกไปไม่ได้หรือจวนตัวจริงๆให้หาที่หลบซ่อนตัว โดยหาที่กำบังมิดชิด ปลอดภัยที่เห็นว่าหากโดนยิงก็จะไม่ทะลุกำแพงหรือโดนระเบิดก็น่าจะรอดได้ และสุดท้ายหากหนีก็ไม่พ้นหรือซ่อนตัวก็กำลังจะถูกหาเจอ ก็ให้เตรียมตัวสู้สุดชีวิต เพราะถ้าถึงจุดนี้ผู้ก่อเหตุเจอตัวเรา เราต้องตายแน่นอนเพราะผู้ก่อเหตุตั้งใจมาเพื่อฆ่า และเขาเตรียมตัวมาตายอยู่แล้ว การร้องขอชีวิตจึงไม่เป็นผล ซึ่งในการสู้กับคนร้าย ต้องสู้ด้วยอุปกรณ์ทุกอย่างที่มีสู้ด้วยแรงทั้งหมดที่มี สู้ด้วยคนทั้งหมดที่มีและสู้เพื่อเปิดโอกาสให้มีคนรอดชีวิต เพราะไม่สู้ก็ต้องตายแน่นอน ถ้าสู้สุดชีวิตอาจมีโอกาสรอดชีวิตได้ ดังนั้นเมื่อเผชิญเหตุจึงอยากให้จำไว้เสมอว่าให้หนีให้ไกลถ้าหนีไม่ทันให้หาที่หลบซ่อนและถ้าซ่อนไม่พ้นก็ให้สู้สุดชีวิต

ส่วนสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ก่อนเกิดเหตกราดยิง ต้องสังเกตว่ามีเสียงดังผิดปกติเสียงปืนเสียงระเบิดหรือเสียงกรีดร้อง สังเกตทิศทางหรือจำนวนของแหล่งที่มาของเสียงเพื่อรู้ทิศทางของเหตุและจำนวนของผู้ก่อเหตุ เพื่อหาทิศทางการหลบหนีที่ปลอดภัย  รวมทั้งสังเกตควันไฟหรือแสงสว่างจากแสงเพลิงหรือระเบิดรวมทั้งความผิดปกติที่อาจเกิดจากการมีไฟดับหรือเสียงประกาศเตือนจากในห้างสรรพสินค้า รวมทั้งการมีฝูงชน วิ่งไปทิศทางใดทิศทางหนึ่งหรือวิ่งแบบสับสนอลหม่าน ซึ่งอยากจะบอกกับประชาชนหรือผู้คนในยุคปัจจุบัน ในขณะที่เดินในที่ชุมชนหรือมีผู้คนหนาแน่น อย่ามัวแต่ก้มดูโทรศัพท์หรือใส่หูฟังทั้งสองหูตลอดเวลา อยากให้ดูโลกภายนอก และฟังเสียงจากรอบข้างบ้าง เผื่อมีสัญญาณอันตราย เพราะบางทีการสนใจสิ่งรอบตัวจะทำให้ชีวิตเรายาวขึ้น

ทั้งนี้ แม้เหตุกราดยิงในประเทศไทยเพิ่งเกิดขึ้นแต่ควรมีการปลูกฝังการเอาตัวรอดเบื้องต้นให้กับเด็กและเยาวชนตั้งแต่เป็นเด็ก เช่นการฝึกให้เด็กสังเกตป้ายทางหนีไฟหรือทางออกตามสถานที่ต่างๆ ให้รู้จักการหนีภัยและหลบหนีออกจากที่อันตราย รวมทั้งรู้จักการหนีแอบซ่อนและการฝึกให้เงียบไม่ส่งเสียงดัง ในขณะที่การเตรียมการของบุคลากรทางการแพทย์รวมทั้งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีการตื่นตัวในการร่วมระดมสมอง และถอดบทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมาเพื่อร่วมกันกำหนดแนวทางป้องกันในอนาคตเพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น 


ด้าน พอ.นพ.ณัฐ ไกรโรจนานันท์ ศัลยแพทย์ กองอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า Mass Shooting หรือกราดยิง ในประเทศไทย เกิดขึ้นแล้ว 2 ครั้งแล้วในปี2563 นี้  ครั้งแรกในเหตุการณ์ชิงร้านทองที่ห้างโรบินสัน จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม และครั้งล่าสุด ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยกรณีเหตุที่เข้าข่าย เป็นเหตุกราดยิง ประกอบด้วย 1.เกิดในที่ชุมชน 2.มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4 คน ไม่รวมผู้ก่อเหตุ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่า จุดจบของผู้ก่อเหตุในทุกกรณีมีเพียงทางเดียวคือตาย ตายจาก 2 กรณีคือ จนมุมเจ้าหน้าที่แล้วฆ่าตัวเองตาย กับถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญ 3.ผู้ก่อเหตุเลือกเหยื่อโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้า และสุดท้ายผู้ก่อเหตุยังมีเป้าหมายอื่นนอกเหนือจากการเอาชึวิตคน เช่น ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ด้วย 

ทั้งนี้ ในการเสวนาครั้งนี้ได้มีการสาธิตการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในการห้ามเลือดให้กับตัวเองรวมทั้งผู้บาดเจ็บจากเหตุกราดยิงในกรณีที่ได้บาดเจ็บในจุดที่ซับซ้อน ซึ่งการปฐมยาบาลเบื้องต้นที่ถูกต้องจะช่วยให้โอกาสในการรอดชีวิตมีมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว