มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต 18ม.ค.-ปิยบุตร ยืนยัน ธนาธร และอนาคตใหม่ ไม่เคยมีแนวคิด ล้มล้างสถาบัน ลั่นหากพรรคถูกยุบ เตรียมปลุก ส.ส.- สมาชิก แห่สมัครสมาชิกพรรคที่มีแนวทางแบบอนาคตใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างจัดกิจกรรม Future is Now #อย่ากลัวอนาคต ของพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้บรรยายแถลงปิดคดียุบพรรคอนาคตใหม่ & อนาคตการเมืองไทย ระบุถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยคดียุบพรรคจากประเด็นที่ถูกร้องล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยในวันที่ 21 มกราคม นี้ ว่าโดยหากพิจารณาข้อกฎหมายตามมาตรา 49 จะพบว่า ไม่มีทางที่จะตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ได้ และที่ผ่านมาไม่มีตรงไหนที่นายธนาธรและตนเคยบอกว่าประเทศต้องเปลี่ยนการปกครองจากพระมหากษัตริย์เป็นประธานาธิบดี จึงจะเห็นว่าคำร้องดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ไม่ต่างกับใบปลิวที่เขียนในแบบฟอร์มของคำร้องเพื่อนำส่งศาลรัฐธรรมนูญ
นายปิยบุตร กล่าวยืนยันว่าตนและนายธนาธร รวมถึงพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช่ปฏิกษัตริย์นิยม แต่ต้องการให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์โดยมีระบบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยปฏิรูประบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นและดีขึ้น เพื่อให้ประชาธิปไตยสามารถปกปักรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ยั่งยืนดำรงอย่างสมพระเกียรติยศและมั่นคงสถาพรสืบไป
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่าความคิดแบบเผด็จการต่างหากที่จะบั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ อำนาจเผด็จการทหารต่างๆ ที่บั่นทอนสถาบันพระมหากษัตริย์ เห็นได้จากประสบการณ์จากหลายประเทศทั่วโลกที่แสดงให้เห็นแล้ว ซึ่งความคิดแบบเผด็จการนอกจากอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ความคิดแบบผู้เกินกว่าราชาและระบบกษัตริย์นิยมล้นเกินก็ทำให้เกิดอันตรายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกัน ซึ่งในต่างประเทศได้มีการแสดงให้เห็นแล้วว่าพวกที่เหนี่ยวรั้งสังคมให้เป็นแบบเดิมเพื่อจะรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ กลับเป็นอันตรายต่อพระมหากษัตริย์ ทุกวันนี้สื่อมวลชนหลายสำนักและนักการเมืองบางคนมุ่งสร้างความเกลียดชังในหมู่ประชาชนโดยใส่ร้ายป้ายสีให้นายธนาธรและตนเองเป็นบุคคลอันตราย เป็นไวรัสตัวใหม่ เป็นคนหัวรุนแรง เป็นคนล้มเจ้า เป็นภัยคุกคามต่อประเทศและเป็นศัตรูของรัฐ ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน ทั้งนี้ หากมีการยุบพรรคจากกรณีนี้เกิดขึ้นเท่ากับเป็นการบอกหรือไม่ว่า นายธนาธร ตนเอง และพรรคอนาคตใหม่รวมถึงกลุ่มที่สนับสนุนเราจะต้องไปเผชิญหน้ากับประเด็นเรื่องพระมหากษัตริย์ ซึ่งกลุ่มคนที่มีแนวคิดขวาตกขอบที่ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลงและเหนี่ยวรั้งไว้ ได้มีการผลักพวกเราให้เป็นศัตรู ใส่ร้ายป้ายสีด้วยข้อหาต่างๆ ซึ่งจะนำนำอันตรายมาสู่ประเทศไทย
“ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพรรคอนาคตใหม่ต้องถูกยุบแน่นอน หากไม่ถูกยุบจากคดีล้มล้างการปกครองก็ต้องถูกยุบจากคดีเงินกู้ ซึ่งคนที่ครองอำนาจหวังว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.พรรคที่ถูกยุบจะไปเติมเสียงให้กับรัฐบาลเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เช่นเดียวกับรัฐบาลปัจจุบันที่มองว่าจะได้ ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ 20 คน ไปสังกัดพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลมีจำนวน ส.ส.ในสภา 280 เสียง เพื่อให้เป็นรัฐบาลที่อยู่ยาว 20 ปี อีกทั้งยังคาดหวังว่าแกนนำของพรรคที่ถูกยุบจะหายไปจากการเมืองไทยในช่วงระยะเวลาหนึ่งและหวังว่าความคิดจะสูญสลายไปพร้อมกับคำวินิจฉัย นี่คือวัตถุประสงค์ของคนที่ครองอำนาจ”นายปิยบุตร กล่าว
นายปิยบุตร กล่าวว่า ต้องทำให้อาวุธที่ชื่อว่าการยุบพรรคกลายเป็นกระสุนที่ด้าน จึงขอเรียกร้องว่าหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ขอให้ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ และสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ที่มีจำนวนมากกว่า 60,000 คน ทุกคนย้ายไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองที่มีแนวทางแบบอนาคตใหม่ ซึ่งได้คุยกับนายธนาธรแล้วว่างานนี้เอาจริงไม่มีถอย และได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้ตั้งแต่วันที่เริ่มก่อตั้งพรรคแล้วว่า ไม่ช้าก็เร็ววันที่ถูกยุบพรรคก็จะมาถึง ขอยืนยันว่านายธนาธรจะยังคงทำงานทางการเมืองอย่างต่อเนื่องโดยไม่กลับไปทำธุรกิจ ส่วนตัวเองหากไม่สามารถอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรได้แล้วจะเดินทางไปทั่วประเทศเพื่ออภิปรายต่อหน้าประชาชน พร้อมมองว่าหลังจากนี้จะเกิดผลร้ายจากการที่มีผู้ยื่นคำร้องยุบพรรคอนาคตใหม่ในข้อหาล้มล้างการปกครองและเป็นผลร้ายที่ไม่มีใครคาดถึงนั่นก็คือ ต่อไปนี้ประเทศไทยจะเกิดกลุ่มคนที่ตั้งตนเป็นเกสตาโป คอยสอดส่องการแสดงความคิดเห็นของคนไทยในโซเชียลมีเดียแล้วเก็บไว้ เพื่อรอจังหวะที่จะนำมาดำเนินคดีกับพรรคอนาคตใหม่ต่อไปอีก ซึ่งจะกลายเป็นผลร้ายกับประเทศไทยอย่างมากในที่สุด.-สำนักข่าวไทย