แก๊งขนกัญชาซิ่งหนีตำรวจชน จยย. แม่สาหัส-ลูกดับ หน้าจวนผู้ว่าฯ นครพนม

นครพนม 19 ธ.ค. – แก๊งขนกัญชาซิ่งรถหนีตำรวจ ชนรถจักรยานยนต์ 2 แม่ลูก หน้าจวนผู้ว่าฯ นครพนม ทำให้ผู้เป็นแม่บาดเจ็บสาหัส ส่วนลูกชายที่นั่งซ้อนท้ายเสียชีวิต 



เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ถ.สุนทรวิจิตร ริมเลียบแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ สภาพถูกชนพังเสียหายเกือบทั้งคัน ล้มคว่ำกลางถนน พบผู้เสียชีวิตชื่อ นายธนภัทร์ พิมพ์พานนท์ อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 4 ในสภาพศพนอนหงาย ทราบว่าเป็นคนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ และยังเป็นแม่ผู้เสียชีวิต ชื่อนางสุรภา พิมพ์พานนท์ อายุ 46 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพนม  


ตรวจสอบรถคู่กรณีพบเป็นรถยนต์ สภาพหน้ารถด้านซ้ายมีรอยชนพังยับเยิน จอดอยู่ในสภาพพุ่งชนต้นไม้ขนาดใหญ่ริมถนน ส่วนคนขับชื่อ นายทศพร รัตนวงษ์ อายุ 25 ปี ชาว อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร บาดเจ็บเล็กน้อย หลังเกิดเหตุถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ เนื่องจากตรวจสอบภายในรถ พบกระสอบปุ๋ยหุ้มด้วยถุงดำ จำนวน 9 กระสอบ ภายในบรรจุกัญชาอัดแท่ง กระสอบละประมาณ 40 แท่ง ตรวจนับได้ 360 แท่ง มูลค่าของกลางกัญชาไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงตรวจเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับชุดสืบสวนนครพนม สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป ลาว เข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครพนม จนกระทั่งสืบสวนติดตามรถต้องสงสัยที่มุ่งหน้ามาจาก อ.ท่าอุเทน จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนได้แกะรอยติดตาม เพื่อเข้าตรวจค้น แต่ภายหลังผู้ต้องหาไหวตัวทัน เกรงว่าตำรวจจะสกัดจับ จึงพยายามขับรถหลบหนีด้วยความเร็ว มาตามถนนสุนทรวิจิตร เลียบแม่น้ำโขง กระทั่งถึงที่เกิดเหตุ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ขณะที่รถยนต์ขนกัญชาของผู้ต้องหาวิ่งมาด้วยความเร็ว มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง และพยายามแซงรถด้านหน้า ได้มีรถจักรยานยนต์ 2 แม่ลูกที่บาดเจ็บและเสียชีวิต สวนทางมา ทำให้ชนเข้าอย่างจัง 

ด้านผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายทุนให้ขับรถไปรับกัญชาในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่ลักลอบนำมาพักริมน้ำโขง จากนั้นให้นำไปพักที่ จ.สกลนคร เพื่อรอการขนส่งไปขายต่อในพื้นที่ตอนในของไทย โดยได้รับการว่าจ้างเป็นเงิน 50,000 บาท มีรถอีกคันคอยดูต้นทาง แต่ภายหลังได้รับแจ้งว่า มีรถตำรวจกำลังแกะรอยติดตามจับกุม จึงพยายามหาทางหลบหนี และขับด้วยความเร็ว จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยตำรวจจะสอบสวนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการ เบื้องต้นแจ้งข้อหาหนัก 2 ข้อหา คือ ค้ายาเสพติดประเภท 5 (กัญชา) และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส

อุตุฯ เผยอีสาน อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย-ใต้ตอนบน ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ เผยภาคใต้ตอนบน มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในภาคอีสาน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด