fbpx

กรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงิน Cash back ชิมช้อปใช้ งวดแรก 15 ธ.ค.นี้

กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – กรมบัญชีกลางพร้อมจ่ายเงิน Cash back เข้ากระเป๋า G-wallet 2 ให้กับผู้ใช้สิทธิ์ที่เข้าร่วมมาตรการชิมช้อปใช้ งวดแรก 15 ธ.ค. 62


นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติขยายระยะเวลามาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ไปถึงวันที่ 31 มกราคม 2563  โดยกรมบัญชีกลางมีหน้าที่ในการรับสมัครร้านค้าเข้าร่วมมาตรการ ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนไปถึงวันที่ 15 มกราคม 2563 ที่กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ สำหรับผู้ใช้สิทธิ์ที่ได้จ่ายเงินจากกระเป๋า G-Wallet 2  ไปก่อนแล้วนั้น จะได้รับเงินชดเชย หรือเงินคืน (Cash Back)  

สำหรับงวดแรก วันที่ 15 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 27 กันยายน  – 30 พฤศจิกายน 2562 งวด 2วันที่ 15 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1 – 31 ธันวาคม 2562  งวด 3 วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2563 ซึ่งได้กำหนดคืนตามเงื่อนไขของมาตรการ คือ 15% สำหรับการใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท และอีก 20% สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท รวมเงินคืนสูงสุด 8,500 บาท โดยผู้ใช้สิทธิ์สามารถตรวจสอบยอดเงินคืนของตนเองได้ที่แอปเป๋าตัง แล้วสามารถโอนเงินคืนกลับเข้าบัญชีของตนเองผ่าน Internet Banking ได้


“ขอให้ผู้ใช้สิทธิ์พิจารณาก่อนการใช้จ่าย ว่าร้านค้าที่จะไปซื้อสินค้าหรือบริการเป็นผู้ประกอบการ/ร้านค้า  ที่เข้าร่วมมาตรการที่ได้สิทธิ์ในกระเป๋า G-Wallet 2 ด้วย เพื่อผู้ใช้สิทธิ์จะได้รับเงินชดเชย ร้านค้าที่ได้สิทธิ์ในกระเป๋า G-Wallet 2 จะเป็นร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการที่เป็นประเภทชิม ช้อป หรือใช้ ที่มิใช่เป็นร้านขายสินค้าบริการทั่วไปหรือห้างสรรพสินค้า และขอฝากผู้ใช้สิทธิ์ใช้จ่ายให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของมาตรการด้วย” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553