กทม. 29 พ.ย.-จากที่เป็นแค่ปัญหาภายในของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ ตอนนี้ลุกลามกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สังคมให้ความสนใจ และยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือน จนล่าสุดคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้ามาควบคุมโรงเรียน เพื่อแก้ไขปัญหาให้ลุล่วง
บรรยากาศนิ่งสงบ นักเรียนสามารถกลับมาวิ่งเล่นทำกิจกรรมตามปกติ ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นอีกครั้งภายในโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย หลังจากก่อนหน้านี้ ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง ต่างออกมาต่อสู้ แต่งชุดดำประท้วงกับผู้บริหารชุดใหม่ หลังพบความไม่ชอบมาพากลของการบริหาร ใช้งบประมาณของโรงเรียน การต่อสู้ของทั้งสองฝั่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม และบานปลายหนักข้อขึ้น จนกินเวลายาวนานแล้วกว่า 4 เดือน
แม้ทั้งสองฝ่ายจะพยายามไกล่เกลี่ยก็ไม่เป็นผล จนหน่วยงานที่ดูแลโดยตรงอย่างคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. ต้องเข้ามาดูแล ใช้ไม้แข็ง โดยออกคำสั่งให้กรุงเทพคริสเตียนเข้ามาอยู่ในความควบคุมของ สช. และตั้งคณะกรรมการมาดูแลแทนผู้บริหารชุดเก่าที่หมดอำนาจทันที จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
ปมร้อนที่นำไปสู่ปัญหาคือ การจัดซื้อที่ดิน และโรงเรียนบึงกาฬคริสเตียน ภายใต้งบกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลโรงเรียน มองว่านายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผอ.โรงเรียนในขณะนั้น ตัดสินใจซื้อไปโดยพลการ ทั้งที่เป็นการตัดสินใจที่ได้รับการอนุมัติจากสภาชุดเก่า และเมื่อมีการร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม สภาคริสตจักรจึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เรื่องเหมือนจะจบ แต่ดราม่าก็บังเกิด เพราะกรรมการที่ตั้งเป็นคนของสภาคริสตจักรที่ทำเรื่องร้องเรียนนายศุภิจเสียเอง และนำมาสู่คำสั่งให้นายศุภกิจ และผู้จัดการโรงเรียน ต้องออกจากโรงเรียนภายใน 24 ชั่วโมง
กลุ่มผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และนักเรียน จึงรวมตัวกันในนาม “องค์กร SAVE BCC” ออกมาคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรม หลังเชื่อว่าการตรวจสอบ ผิดปกติและไม่โปร่งใส รวมถึงการบริหารงาน และเงินของโรงเรียน มีความไม่ชอบมาพากล ซึ่งหากนับเฉพาะกรุงเทพคริสเตียน แต่ละปีจะมีเงินหมุนราวๆ 500-600 ล้านบาท
หลังมีการออกคำสั่งควบคุม วันนี้ได้นัดประชุมคณะกรรมการนัดแรก พร้อมย้ำว่าไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อไกล่เกลี่ยความขัดเเย้งที่เกิดขึ้น แต่เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมา สช. ได้เข้าไปทักท้วงหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถหาทางออกได้
ปัจจุบันมีโรงเรียนเอกชนที่ สช. เข้าไปควบคุมรวม 6 โรง แต่ส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องขาดทุน ไม่มีเงินบริหาร แต่กับกรณีกรุงเทพคริสเตียน เป็นกรณีพิเศษที่เกิดจากความขัดแย้งจนลุกลามบานปลาย จึงทำให้ไม่สามารถเร่งรัดกำหนดกรอบเวลาทำงานได้ แต่ย้ำว่าจะทำให้เร็วที่สุดอย่างรอบคอบตามหลักฐานและข้อเท็จจริง.-สำนักข่าวไทย