สธ.4ต.ค.-กระทรวงสาธารณสุข ตั้งคณะทำงานศึกษาความเป็นไปได้ในการเตรียมออกกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารอวัยวะหลังเสียชีวิต คาดจะมีผู้บริจาคถึงร้อยละ 70 ช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น
นพ.คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การปลูกถ่ายอวัยวะ เนื้อเยื่อ และดวงตา เป็นการรักษาที่ช่วยลดอัตราการเสียชีวิต ลดความพิการ ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด แต่ยังมีปัญหาในการเข้าถึงการปลูกถ่าย ซึ่งมีผู้รอปลูกถ่ายอวัยวะและดวงตาเพิ่มขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีผู้รอรับอวัยวะ 6,245 ราย และ ผู้รอรับดวงตา 12,964 ราย ขณะที่สามารถปลูกถ่ายอวัยวะได้ปีละ 500 – 700 ราย ปลูกถ่ายกระจกตาได้เพียงปีละ 700 – 800 ราย และผู้ป่วยรอปลูกถ่ายไตไม่ต่ำว่า 3 ปี
ดังนั้น เพื่อให้มีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มมากขึ้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการบริหารจัดการอวัยวะหลังเสียชีวิต ซึ่งคณะทำงานนี้ ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี ผู้ชำนาญงานด้านกฎหมาย นักเศรษฐศาสตร์ และเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อศึกษาถึงแนวทางใหม่ของการบริจาคอวัยวะ
ทั้งนี้ ในช่วงแรกจะใช้แนวทางให้ประชาชนต้องตัดสินใจว่าอยากให้อวัยวะหรือไม่ เมื่อไปทำธุรกรรมเอกสาร เช่น ต่อบัตรประชาชน ใบขับขี่ เป็นต้น และเมื่อมีความพร้อมมากขึ้น จะปรับระบบให้ทุกคนมีตัวเลือกตั้งต้นว่าเป็นผู้บริจาคอวัยวะ กรณีที่เลือกไม่อยากเป็น สามารถออกจากการเป็นผู้ให้อวัยวะได้ทุกเมื่อ
สำหรับตัวร่างกฎหมายฯ เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หากกฎหมายผ่านและมีการนำไปใช้คาดในระยะแรกจะมีผู้บริจาคอวัยวะเพิ่มร้อยละ 30 และเมื่อปรับเป็นการเปลี่ยนตัวเลือกตั้งต้นจะมีผู้บริจาคถึงร้อยละ 70 ซึ่งจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้เพิ่มมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย