ชาวบ้านร้องศาล รธน. ไม่ได้รับสิทธิที่ดินทำกินในพื้นที่หมดสัมปทาน

ศาลรัฐธรรมนูญ  2 ต.ค.- อสท.นำชาวบ้านร้องศาลรัฐธรรมนูญ   ไม่ได้รับสิทธิที่ดินทำกินในพื้นที่หมดสัมปทาน   หลังผู้ตรวจการแผ่นดินไม่รับ  จึงขอใช้สิทธิฯ เพราะรัฐบาลละเลยการปฏิบัติหน้าที่  อ้างนายกฯ ให้กรมป่าไม้จัดสรรที่ดินให้กับประชาชนแล้วไม่ดำเนินการ


นายสุขสันต์ บริเพ็ชร ประธานองค์การตรวจสอบอำนาจรัฐแห่งราชอาณาจักรไทย  (อสท.)  นำชาวบ้านผู้เสียประโยชน์จากที่ดินทำกิน  กรณีกรมป่าไม้ละเลยไม่จัดสรรที่ดินในเขตป่าสงวน จ.กระบี่ ซึ่งหมดสัมปทานจำนวน 70,000 ไร่  ให้กับราษฎรจาก 4 จังหวัด ซึ่งประกอบด้วย สุราษฎร์ธานี พัทลุง กระบี่ และนครศรีธรรมราช  จำนวนกว่า 200 คน  เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญโดยรถบัส  เพื่อยื่นคำร้อง  ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีที่กรมป่าไม้ไม่ได้มอบสิทธิทำกินในที่ดินที่หมดสัมปทานให้กับประชาชน  ตามโครงการถือครองที่ดินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการดำรงชีพของราษฎรยุคปฏิรูปประเทศ จำนวน 20,000 ไร่


นายสุขสันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณา แต่จนถึงปัจจุบันกรมป่าไม้ไม่ดำเนินการจัดสรรที่ดินให้กับราษฎร  อสท.จึงเข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน   แต่ผู้ตรวจการแผ่นกินไม่รับพิจารณา  เนื่องจากมองว่า อสท.ไม่ได้เป็นผู้เสียหายที่แท้จริง   วันนี้จึงต้องนำตัวแทนชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายที่แท้จริงเข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

“เดิมทีบริษัท ยูนิวานิช จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ขอสัมปทานเช่าใช้ที่ดินจากกรมป่าไม้ เพื่อทำสวนปาล์ม และหมดสัญญาสัมปทานในปี 2556 ซึ่งกลุ่มชาวบ้านมีความเห็นตรงกันว่า ควรจัดสรรที่ดินดังกล่าวให้กับประชาชนผู้ยากไร้ได้ใช้ประโยชน์   เราจึงมาขอใช้สิทธิตามกฎหมาย   เพราะถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ของรัฐ ตามรัฐธรรมนูญหมวด 5 ว่าด้วยหน้าที่แห่งรัฐ” นายสุขสันต์ กล่าว

สำหรับเหตุพิพาทที่ดินดังกล่าว  สืบเนื่องมาจากในปี 2530 รัฐบาลมีนโยบาลให้เอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจปาล์มน้ำมัน ใน จ.กระบี่ จำนวน 14 แปลง เนื้อที่ประมาณ 70,000 ไร่ ปัจจุบันสัมปทานที่ดินได้ทยอยหมดอายุลง รัฐบาลในปี 2546 มีนโยบายจะนำที่ดินดังกล่าวมาจัดสรรให้กับประชาชนที่ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่บุกรุกเข้าไปยึดครองสวนปาล์มที่หมดอายุสัมปทานหลายแปลง จนกลายเป็นคดีพิพาทจนถึงปัจจุบัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมายื่นเรื่องของกลุ่มดังกล่าว  ซึ่งมาเป็นจำนวนมาก และไม่ได้มีการแจ้งมาไว้ก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งประสานต้องให้ตำรวจ 1 กองร้อยมาดูแลรักษาความสงบ พร้อมกับกั้นสถานที่ให้เป็นสัดส่วนเนื่องจากมีผู้ร้องจำนวนมาก และผู้ร้องได้ยื่นร้องเป็นรายบุคคล     . – สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้