กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – กบง.เอาใจชาวบ้าน เห็นชอบตรึงราคาน้ำมัน-ก๊าซ ไม่ขยับขึ้น แม้ราคาดูไบพุ่ง 5 ดอลลาร์/บาร์เรล จากเหตุโจมตีซาอุดีอาระเบีย ควักกองทุนน้ำมันฯ ดูแลกว่า 813 ล้านบาท/เดือนให้ราคาไม่ขยับ 3 เดือน กรณีดูไบไม่เกิน 65 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (17 ก.ย.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตรึงราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้มไม่ให้ขยับขึ้น เพื่อลดผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน และเป็นการบรรเทาผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศซาอุดีอาระเบียที่ส่งผลกระทบทำให้ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับขึ้นประมาณ 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ประมาณ 65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หากคำนวณแล้วราคาขายปลีกต้องขึ้นประมาณ 1 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจี ขยับขึ้นร้อยละ 14 หรือ 59 ดอลลาร์/ตัน โดยปรับมาอยู้ที่ 413 ดอลลาร์/ตัน
ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะการขาดแคลนและการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ประชุมได้เห็นชอบให้ปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มน้ำมันเบนซิน 1.00 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลลง 0.60 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2562 โดยใช้เกณฑ์ราคาน้ำมันดิบดูไบดูแลที่ 65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หากราคาสูงกว่านี้ก็จะอาจจะพิจารณาเป็นช่วง ๆ ว่าควรขยับราคาเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่ แต่หากต่ำกว่านี้ราคาขายปลีกจะไม่ลดลง เพราะเป็นการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อดูแลเสถียรภาพกองทุนฯ โดยเงินกองทุนจะไหลออกประมาณ 813 ล้านบาท/เดือน พร้อมดูแลอย่างต่ำ 3 เดือน ก็จะใช้เงินดูแลประมาณ 2,400 ล้านบาท จากวงเงินกองทุนฯ ปัจจุบันมี 39,000 ล้านบาท จึงทำให้ดูแลได้ไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบมาตรการในด้านการจัดหาให้สามารถกระจายการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงจากแหล่งอื่น เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ประเทศโอมาน เป็นต้น เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันจากซาอุดีอาระเบียประมาณ 170,000 บาร์เรล/วัน ในส่วนบริหารจัดการปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศให้เพียงพอกับความต้องการใช้ในช่วงที่คาดว่าจะเกิดวิกฤตการณ์ โดย ณ วันที่ 16 กันยายน 2562 ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือและปริมาณสำรองของประเทศมีปริมาณรวม 6,407 ล้านลิตร เพียงพอใช้ได้ 54 วัน และปริมาณ LPG สำหรับการใช้ในภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง สามารถเพียงพอใช้ได้ 12 วัน ทั้งนี้ หากสถานการณ์ยาวนานเกินกว่า 12 วัน กรมธุรกิจพลังงานจะจัดสรร LPG ให้กับภาคครัวเรือนก่อนเป็นลำดับแรก
สถานะของเงินกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 15 กันยายน 2562 กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิ 39,402 ล้านบาท ภายหลังปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ เฉพาะบัญชีน้ำมันติดลบประมาณ 813 ล้านบาท/เดือน จากเดิมเงินกองทุนฯ บัญชีน้ำมันจะไหลเข้าประมาณ 1,210 ล้านบาท/เดือน ขณะที่ค่าการตลาดล่าสุดกลุ่มเบนซินอยู่ที่ 1.05 บาท/ลิตร ดีเซล 1.40 บาท/ลิตร
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจพลังงานตลาดโลกประเมินว่าผลกระทบของราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นเป็นการชั่วคราว ราคาจะไม่เกิน 70 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะปริมาณน้ำมันโลกมีเกินต้องการ และเศรษฐกิจโลกเกิดภาวะถดถอยทำให้ความต้องการไม่เพิ่มขึ้นมากนัก ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่ามาก ที่ 30.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก็เป็นผลบวกทำให้ต้นทุนนำเข้าน้ำมันของไทยไม่ขยับขึ้นมากนัก ทั้งนี้ กรณีการส่งออกของซาอุฯ ที่ลดลง ไทยก็สามารถนำเข้าจากการ์ตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิรัก ทดแทนได้อย่างไม่มีปัญหา.-สำนักข่าวไทย