fbpx

ฎีกาคุก 4 ปี “อริสมันต์” พร้อมพวก คดีล้มประชุมอาเซียน

ชลบุรี 11 ก.ย. – คงจำกันได้เหตุการณ์ใหญ่ คดีล้มการประชุมผู้นำอาเซียน ที่พัทยา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ในที่สุดวันนี้ศาลฎีกาได้ตัดสินแล้ว โดยพิพากษายืน สั่งจำคุกนายอริสมันต์ พร้อมพวกรวม 12 คน เป็นเวลา 4 ปี ไม่รอลงอาญา



จำเลยในคดีนี้ ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง, นายนิสิต สินธุไพร, นายพายัพ ปั้นเกตุ, นายวรชัย เหมะ, นายวันชนะ เกิดดี, นายพิเชฐ สุขจินดาทอง, นายศักดา นพสิทธิ์, พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภารัตน์, นายนพพร นามเชียงใต้, นายสำเริง ประจำเรือ, นายสมยศ พรหมมา, นพ.วัลลภ ยังตรง และนายสิงห์ทอง บัวชุม วันนี้มีเพียงนายศักดา นพสิทธิ์ ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ มาฟังคำพิพากษา นายศักดา บอกว่า จำเลยคนอื่นไม่มา เพราะมีเหตุผลส่วนตัว และตนได้ยื่นเอกสารยืนยันว่า พยานที่ให้ปากคำเป็นพยานเท็จ


คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ข้อหาร่วมกันขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงานที่ไม่ให้มีการชุมนุมเกินกว่า 10 คนขึ้นไป และผิด พ.ร.บ.จราจร จากเหตุการณ์เมื่อเดือนเมษายน 2552 โดยนายอริสมันต์ และแกนนำ นปช. นำกลุ่มคนเสื้อแดงไปชุมนุมปิดล้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เพื่อกดดันรัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จนทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไป


ที่สุดศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 12 จำเลย เป็นเวลา 4 ปี โดยยกฟ้องนายสมยศ พรหมมา เพราะเป็นมวลชนธรรมดา ไม่ใช่แกนนำ 

ทนายความของกลุ่ม นปช. เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ นายสำเริง ประจำเรือ และนายวรชัย เหมะ ที่ไม่ได้รับหมายเรียกให้มาฟังคำพิพากษา ศาลจะออกหมายเรียกให้มารับฟังคำพิพากษาอีกครั้ง ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ส่วนจำเลยที่ไม่มาฟังคำพิพากษาวันนี้ ศาลจะออกหมายจับ เพื่อให้มารายงานตัวต่อศาลและเข้าสู่เรือนจำทันที

ด้านทนายความส่วนตัวนายอริสมันต์ บอกสาเหตุที่นายอริสมันต์ไม่มา เพราะป่วย เวียนศีรษะ บ้านหมุน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสนามจันทร์ จ.นครปฐม หลังทราบคำพิพากษาได้โทรศัพท์ไปบอกนายอริสมันต์แล้ว แต่จะมารายงานตัวกับศาลเมื่อใดนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553