fbpx

คลังชงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังเกิดเงินหมุนเวียนกว่า 2 แสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – ครม.เศรษฐกิจเตรียมพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังช่วยทุกกลุ่ม ทั้งเกษตรกรประสบภัยแล้ง หนุนการท่องเที่ยว เติมบัตรสวัสดิการ  ช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชน รายย่อย และเอสเอ็มอี  สร้างทุนเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 2 แสนล้านบาท รับมือเศรษฐกิจโลกถดถอยจากสงครามการค้า 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังหารือกับคณะผู้แทนสภาธุรกิจ สหรัฐอเมริกา-อาเซียน เกี่ยวกับแนวทางบริการทางการเงิน ว่า นักลงทุนต่างชาติความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทย หลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายต่อสภา โดยพร้อมเข้ามาขยายการลงทุนในประเทศและต้องการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาบุคลากร เทคโนโลยี การเงินดิจิทัล โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจย่อมสร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าเมื่อเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ตลาดตราสารหนี้ดอกเบี้ยลดลง การส่งออกมีปัญหา จึงต้องดูแลกำลังซื้อของฐานราก ภาคเกษตรผู้ประสบปัญหาภัยแล้ง สนับสนุนการปลูกพืชทดแทน ส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายหลายพื้นที่ เพื่อให้ธุรกิจรายย่อยระดับท้องถิ่นขายสินค้าได้มากขึ้น เมื่อรัฐบาลอัดฉีดเงินผ่านหลายมาตรการ ทั้งงบกลาง เงินทุนจากแบงก์รัฐ และอีกหลายส่วนที่ใช้ลดหย่อนภาษี เมื่อมีการใช้จ่ายของชาวบ้านจะเกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจนับแสนล้านบาท 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากระกระทรวงการคลังร่วมกับหลายหน่วยงานเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากเศรษฐกิจโลกผันผวนปัจจุบันและแนวโน้มอาจกระทบเศรษฐกิจของประเทศ  สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประกอบด้วย 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.มาตรการบรรเทาช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง เช่น การช่วยเหลือเกษตรกรผ่อนคลายหนี้สินสนับสนุนพิเศษด้านดอกเบี้ย ทั้งสนับสนุนสินเชื่อใหม่และต้นทุนการเพาะปลูก ด้วยการชดเชยกรปลูกข้าว 4 ล้านครัวเรือน 500-800 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 15 ไร่ วงเงินช่วยเหลือ 57,000 ล้านบาท  ส่วนเงินกู้ฉุกเฉินรองรับภัยแล้ง ปล่อยกู้ 500,000 บาทต่อราย ยกเว้นดอกเบี้ยปีแรก รวมวงเงิน 55,000 ล้านบาท 

ด้านประกันรายได้ให้กับเกษตรกรในพืชเศรษฐกิจหลักทั้งข้าวเปลือกเจ้า ประกัน 10,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ 105 15,000 บาทต่อตัน วงเงิน 53,000 ล้านบาท มันสำปะหลัง ยางพารา 60 บาทต่อกิโลกรัม วงเงิน 35,743 ล้านบาท ปาล์มน้ำมัน ราคา 4 บาทต่อกิโลกรัม วงเงิน 10,000 ล้านบาท รวมช่วยเหลือ 6.23 ล้านครัวเรือน 

2.มาตรการดูแลปรับเพิ่มสวัสดิการสำหรับผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่  กลุ่มรายได้ต่ำกว่า 1 แสนบาท รับค่าครองชีพ 200 บาทต่อคน ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง 1,500 บาทต่อคน ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45บาทต่อคนต่อ 3 เดือน  ฝึกอาชีพ 100 บาทต่อคน สำหรับกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี รับค่าครองชีพ 300 บาทต่อคน ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทาง 1,500 บาทต่อคน ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45บาทต่อคนต่อ 3 เดือน ฝึกอาชีพ 100 บาทต่อคน  


และ 3.มาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในประเทศ เช่น กระตุ้นการท่องเที่ยวล่าสุดที่สอดรับยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง เล็งสร้างเงินสะพัดท้องถิ่น จากการใช้จ่ายและการช้อปสินค้าชุมชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เตรียมมอบเงินให้ 1,500 บาทสำหรับท่องเที่ยวทั่วประเทศ เป้าหมาย 10 ล้านคน ใช้เงิน 15,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ยังเตรียมพิจาณายกเว้นวีซ่าด่านตรวจคนเข้าเมือง  Visa On arrival (VOA) ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 21 ประเทศ หลังจากมาตรการครบกำหนด 31 ตุลาคม 2562  เพื่อจูงใจกลุ่มทัวร์ให้เข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ตลอดจนการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวจีน อินเดีย เข้ามาท่องเที่ยว 15 วัน  มีผล 1 พฤศจิกายน 2562-31 ตุลาคม 2563 เป็นเวลา 1 ปี  ขณะที่การท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ การส่งเสริมท่องเที่ยวรายเดือน วันที่ 9 เดือน 9 จัดโปรโมชั่นลดราคาที่พักหลักร้อยบาทต่อคืน เพื่อดึงยอดเข้ามาใช้จ่ายช่วงท้ายปี 

กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการพิเศษช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายเล็กทั่วประเทศเข้าถึงเงินทุน เพื่อรักษาสภาพคล่อง รวมถึงลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร  มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้คาดว่าจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ และเชื่อว่าจะสามารถรับมือผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลกได้ โดยประเมินว่าชุดมาตรการจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจรวมเพิ่มไม่ต่ำกว่า 200,000 ล้านบาทในครึ่งหลังของปีนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

พายุโซนร้อนซูลิก

ฤทธิ์พายุโซนร้อนซูลิก ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่นครพนม

ฤทธิ์พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนเริ่มตกหนักในพื้นที่ จ.นครพนม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเดินเครื่องสูบน้ำลงน้ำโขง

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ