ปักกิ่ง 26 ก.ค.- ผู้เลี้ยงเป็ดในจีนกำลังเร่งขยายธุรกิจรองรับความต้องการของตลาด เพราะได้อานิงส์จากโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาดทำให้ราคาเนื้อหมูที่เป็นอาหารหลักของชาวจีนแพงขึ้น ประกอบกับมีอุปสรรคน้อยกว่าไก่ที่ถูกจำกัดการนำเข้าเพราะไข้หวัดนก
ข้อมูลของทางการจีนระบุว่า อหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาดทำให้จำนวนสุกรเลี้ยงในประเทศลดลงไปกว่า 1 ใน 4 แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าสุกรที่ตายหรือถูกกำจัดน่าจะมีมากถึงครึ่งหนึ่งของทั้งหมด นักวิเคราะห์ของธนาคารราโบแบงก์ในเนเธอร์แลนด์คาดว่า ปริมาณเนื้อหมูในจีนจะลดลงร้อยละ 30 หรือราว 16 ล้านตัน ส่งผลให้ราคาพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่และเปิดช่องว่างให้แก่เนื้อสัตว์ประเภทอื่น ราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้นร้อยละ 35 จากปีก่อน ทำให้คนหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ปีกแทน แม้ราคาอกไก่แพงขึ้นร้อยละ 20 และราคาเป็ดแพงขึ้นเกือบสามเท่าเป็นตันละ 14,600 หยวน (ราว 65,711 บาท) แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่ก็ยังไม่ถึงครึ่งของราคาเนื้อหมู
จีนเลี้ยงเป็ดร้อยละ 80 ของโลก เดิมเป็นอาหารท้องถิ่นของคนทางใต้ที่นิยมรับประทานลิ้นเป็ดทอด ขาเป็ดอบ คอเป็ด และไส้เป็ด แต่ช่วงหลายปีมานี้โรงงาน โรงเรียน ธุรกิจและกองทัพเปลี่ยนเมนูหมูไปเป็นเป็ดหรือไก่มากขึ้นเพราะประหยัดกว่า รองนายกรัฐมนตรีหู ชุนหัว ขอให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกเร่งผลิตเพื่อทดแทนโปรตีนจากหมู ป้องกันการเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากมีเสียงเตือนว่ามีแนวโน้มว่าจะเกิดโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกรระบาดอีก ปริมาณเนื้อหมูจะต่ำกว่าปี 2561 ไปจนถึงปี 2564 ตลาดเป็ดในจีนยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะปีที่แล้วผลิตได้เพียง 5 ล้านตัน ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของปริมาณไก่ที่ผลิตได้ นอกจากนี้ยังมีปริมาณพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในประเทศจำนวนมาก ต่างจากไก่ที่ส่วนใหญ่เกษตรกรนำเข้าจากต่างประเทศและมีปัญหาทางการจีนห้ามนำเข้าจากประเทศที่มีไข้หวัดนกระบาด ตลาดไก่จึงอาจขยายตัวได้ไม่ถึงร้อยละ 5 ในปีนี้.- สำนักข่าวไทย
