เปิดปฏิบัติการทลายบ่อนกลางเมืองสมุทรสาครอ้างจ่ายส่วยผู้ว่าฯ

สมุทรสาคร 9 ก.ค.- ผู้ว่าฯ สมุทรสาครเดือดบ่อนอ้างจ่ายส่วย เปิดเล่น 24 ชม. ขอกำลังเสริมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองลุยทันทีทลายตอนกลางวัน รวบ 51 นักพนันยึดอุปกรณ์อีกเพียบดำเนินคดี

เมื่อเวลา 13.45 น. (9 ก.ค.) นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ประสานกับนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจ และทหาร กระจายกำลังปิดล้อมอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ย่านชุมชนซอยเจ็ดศอก หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ก่อนเข้าตรวจสอบภายในอาคารพบกลุ่มนักพนันจำนวนมากและควบคุมตัวชาย-หญิงไว้ได้ทั้งหมด 51 คน รวมทั้งตรวจลงบันทึกหลักฐานมีโต๊ะไฮโล อุปกรณ์การเล่น โพยพนันผลฟุตบอล เงินสด  271,049 บาท กล้องวงจรปิด 12 ตัว เครื่องคอมพิวเตอร์  3 เครื่อง และอื่น ๆ อีกหลายรายการ

เบื้องต้นเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง แจ้งข้อหาผู้เป็นเจ้ามือพนันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช 2478  ดังนี้ 1.ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นอันระบุไว้ใน บัญชี ก. หมายเลข 23 (ไฮโล) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต, 2.ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันทายผลฟุตบอลต่างประเทศ เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3.ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นพนัน ลักษณะการเล่นสล็อต พนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังได้แจ้งข้อหานักพนันทุกคน ในข้อหา เป็นผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นอันระบุไว้ใน บัญชี ก. หมายเลข 23 (ไฮโล) เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมนักพนันทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายรณรงค์  กล่าวว่า กรมการปกครองได้รับการประสานจากนายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ขอกำลังจากส่วนกลางเข้าทลายบ่อนใจกลางเมือง เนื่องจากนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีการแอบอ้างการจ่ายส่วยให้ผู้ว่าฯ แล้วไม่กลัวถูกจับ ทำให้ผู้ว่าฯ เสื่อมเสียชื่อเสียง  และเชื่อว่าบ่อนนี้ไม่ใช่แห่งเดียว เพราะดูจากโพยที่เขียนกำกับไว้ว่า โต๊ะพนันหมู่ 2 แสดงว่าน่าจะมีที่อื่นอีก ส่วนเงินหมุนเวียนแต่ละวันมีไม่ต่ำกว่าหลักแสน และมีการชักจูงใจนักพนันด้วยการให้คูปองเงินไปเล่นก่อน และยังเปิดเล่น 24 ชั่วโมง ทางกรมการปกครองจะเร่งขยายผลผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หากประชาชนพบเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย หมายเลข  1567.-สำนักข่าวไทย