ภูมิภาค 22 เม.ย. – วันนี้ เจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายร่วมปฏิบัติการเคลื่อนย้ายบ้าน Seasteading ของกลางชิ้นสำคัญ กลับเข้าฝั่งแล้ว หลังมีการลักลอบก่อสร้างในทะเลไทยไม่ไกลจากเกาะภูเก็ต หวังสถาปนาขึ้นเป็นรัฐอิสระ
นี่เป็นภาพวินาทีหลังจากเจ้าหน้าที่ปล่อยน้ำเข้าไปภายในตัวเสาบ้านของ Seasteading เพื่อให้ตัวบ้านทรงแปดเหลี่ยมค่อยๆ ลดระดับลงมาแตะกับผืนน้ำ เพื่อแยกชิ้นส่วนของตัวบ้านออกจากตัวเสา ซึ่งมีความยาว 20 เมตร โดยการดำเนินการในส่วนนี้ใช้เจ้าหน้าที่ทหารจากกองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา กับทหารหน่วยปฏิบัติการพิเศษใต้น้ำ หรือหน่วยซีลของทัพเรือภาค 3 เป็นผู้เข้าดำเนินการ
ตามแผนเดิมนั้น เจ้าหน้าที่จะยกตัวบ้านทรงแปดเหลี่ยมขึ้นเก็บภายในเรือหลวงมันใน ซึ่งเป็นเรือระบายพลขนาดใหญ่ เพื่อนำกลับเข้าฝั่ง แต่ก็ต้องปรับแผนใหม่ หลังจากพบว่าตัวบ้านมีขนาดใหญ่เกินไป หากยกขึ้นเรือหลวงมันใน เกรงว่าตัวบ้านจะได้รับความเสียหาย จึงปรับมาใช้วิธีการให้เรือหลวงมันในลากกลับเข้าฝั่งแทน ซึ่งกินเวลานานขึ้น ส่วนเสาทุ่น ใช้เรือหลวงริ้นลากตามแผนการเดิม ชิ้นส่วนของ Seasteading ทั้งสองถูกนำเข้าฝั่ง บริเวณท่าเทียบเรือน้ำลึก ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต
พล.ร.ต.วิธนรัชต์ คชเสนี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ระบุว่า Seasteading ที่นำเข้าฝั่งวันนี้ ถือเป็นพยานหลักฐานชิ้นสำคัญที่จะเอาผิดกับเจ้าของบ้านทั้ง 2 ราย คือ นายชาร์ด แอนดริว สัญชาติอเมริกัน และ นาเดีย เทพเดช ภรรยาชาวไทย ก่อนการถอดแยกชิ้นส่วน ทางเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพของ ศรชล.ภาค 3 ทั้ง 6 หน่วยงานได้เข้าไปตรวจสอบภายในตัวบ้านอย่างพร้อมเพรียงกัน โดยมีการจดบันทึกรายการสิ่งของต่างๆ ในตัวบ้านไว้ทุกรายการ ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ ศรชล.ภาค 3 ลงนามเป็นสักขีพยานร่วมกัน
รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ยืนยันว่า การเข้าดำเนินการครั้งนี้ ทุกขั้นตอนดำเนินการด้วยความถูกต้อง ทางการไทยมีสิทธิอธิปไตยเหนือน่านน้ำบริเวณที่ Seasteading ปลูกสร้างอย่างสมบูรณ์ รวมถึงไม่กังวลใจต่อกรณีที่ทางบริษัทฯ ซึ่งอ้างการอยู่เบื้องหลังบ้านลอยน้ำผิดกฎหมายนี้ จะฟ้องร้องเอาผิดไทยต่อศาลโลก
ขณะที่นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ระบุว่า หลังมอบ Seasteading บ้านของกลางให้พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต แล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะส่งต่อให้ ศรชล.ภาค 3 จากนั้นเจ้าท่าจะเป็นผู้เก็บรักษาดูแลของกลางชิ้นนี้ต่อไป
ส่วนการขยายผลว่ามีกลุ่มทุนใดเชื่อมโยงกับเจ้าของบ้านทั้ง 2 รายนี้บ้าง ทางจังหวัดภูเก็ตได้ตั้งคณะทำงานเข้าตรวจสอบแล้ว หลังมีข้อมูลเชื่อมโยงกับบริษัท 4 แห่ง ที่จดทะเบียนจัดตั้งใน จ.ภูเก็ต ว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในลักษณะของการเป็นนอมินีให้กลุ่ม Seasteading. – สำนักข่าวไทย