กกต. 21 มี.ค.-“พ.ต.อ.จรุงวิทย์” โชว์ระบบรายงานผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการ เผยมีเรื่องร้องเรียน 93 เรื่อง เตรียมเร่งส่ง กกต.พิจารณาก่อนประกาศผล ผลสอบกาบัตรล่วงหน้า จ.สมุทรสงคราม ไม่พบเป็นการทุจริต เตือนพรรคการเมืองอย่าหาเสียงวันเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เวลา 11.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. นำสื่อมวลชนเข้าดูความพร้อมของศูนย์อำนวยการและประสานการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 5 ของสำนักงาน กกต. พร้อมสาธิตการลงคะแนน การนับคะแนน การทักท้วงกรณีเห็นว่าการนับคะแนนไม่ถูกต้อง และการทำความเข้าใจกรณีเมื่อกรรมการนับคะแนนเสร็จแล้วพบว่าจำนวนบัตรลงคะแนนกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่ตรงกัน จะไม่มีการนับคะแนนใหม่อีกครั้ง แต่กรรมการประจำหน่วยจะทำรายงานเสนอขึ้นมาตามลำดับให้ กกต.กลางพิจารณาวินิจฉัยว่าจะนับคะแนนใหม่ หรือสั่งลงคะแนนใหม่ รวมถึงโชว์ระบบการรายงานผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการของหน่วยเลือกตั้ง ทั้ง 92,320 หน่วยเลือกตั้งจากทั่วประเทศ ซึ่งมีการทดลองระบบแล้วและในวันที่ 23 มีนาคมนี้ จะมีการแจกบัตรเลือกตั้งและอุปกรณ์ โดยจะให้แต่ละเขตรายงานเรื่องการรับบัตรเลือกตั้ง และจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามาเพื่อเช็คระบบครั้งสุดท้ายก่อนการที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม
ทั้งนี้ กกต.มั่นใจว่าหลังปิดการลงคะแนนในวันที่ 24 มีนาคมแล้วการนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งที่มีผู้มาใช้สิทธิน้อยจะทราบผลอย่างไม่ทางการภายใน 1 ชั่วโมงหลังปิดหีบ นอกจากนี้ในศูนย์ดังกล่าว จะมีตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ การไฟฟ้านครหลวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะคอยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย เพราะมีการรายงานสถานการณ์หรือแจ้งเหตุใด ๆ เข้ามาทางศูนย์ฯ ก็จะสามารถแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาได้ทันที
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงผลการตรวจสอบกรณีผู้ใช้สิทธิที่ จ.สมุทรสงคราม นำบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปกากบาททั้งเล่ม ว่า เบื้องต้นเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใจกันของผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง และหน่วยเลือกตั้งมีความชุลมุนเกิดขึ้น จึงหยิบบัตรทั้ง 17 ใบไปกาเครื่องหมาย โดยที่บัตรเลือกตั้งทั้งหมดไมได้หายไปไหน ยังอยู่ในหน่วยเลือกตั้ง ผู้กระทำความผิดจึงไม่น่าจะมีเจตนา และจากการประสานกับ สภ.สมุทรสงคราม ก็ยืนยันในลักษณะเดียวกันว่าอาจจะเกิดจากความไม่เข้าใจกัน แต่ก็ขอให้รอผลการสืบสวนที่ชัดเจน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องร้องเรียนที่มีเข้ามาในขณะนี้ทั้งหมด 93 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องความปรากฏ โดยทางสำนักงาน กกต.จังหวัด ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เมื่อแล้วเสร็จก็จะทยอยส่งมายัง กกต.กลาง ซึ่ง กกต.จะพยายามพิจารณาเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนการประกาศผล อย่างไรก็ตาม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กฎหมายกำหนดให้มีสินบนรางวัลให้กับผู้ที่นำพยานหลักฐาน มายื่นให้ กกต. สามารถเก็บหลักฐานได้ การถ่ายคลิปวิดีโอ หรือถ่ายภาพผู้ที่มาแจกเงินซื้อเสียง หรือทำทุจริตเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น มีการแจกเงิน 500 บาท หรือ 1,000 บาท โดยหลักฐานนั้นสามารถนำไปสู่การที่ กกต.ระงับสิทธิ์สมัคร ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสั่งเลือกตั้งใหม่ ผู้ให้เบาะแสจะได้รับเงิน 1 แสนบาท
“เงินซื้อเสียง 1,000 บาท ก็จะเปลี่ยนเป็น 100,000 บาทได้ และเป็นสินบนรางวัลนำจับที่ถูกต้องตามกฎหมาย” พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว
เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า กกต.จะไม่นำผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการไปคำนวณหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่แต่และพรรคควรได้ แล้วมาเปิดเผยก่อน เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงหา กกต.สั่งเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ ดังนั้น กกต.จะเปิดเผยจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคที่ควรได้เมื่อมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ไม่ห่วงว่าจะเกิดปัญหาเช่นการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา แต่ที่ห่วง คือ ในวันดังกล่าวพรรคการเมืองอาจจะยังเข้าใจว่าสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ ซึ่งจะผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายเลือกตั้งกำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หาเสียงได้ถึงเวลา 18.00 น.ของวัน 23 มีนาคม เท่านั้น
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงมติของ กกต.ที่มีการพิจารณาเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชอบด้วยกฎหมายนั้น ในส่วนของรายละเอียด ตนยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะยังไม่เห็นมติ เนื่องจากเป็นการประชุมของ กกต.-สำนักข่าวไทย