นครพนม 19 มี.ค.-ทางการ สปป ลาว ปล่อยตัวหนุ่มไทยแล้ว เผยข้ามไปฝั่งลาว เพื่อแจ้งความตำรวจ กรณีแม่ถูกทำร้าย แต่ไม่รู้กฎหมายของสปป ลาว จึงไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์กับผู้นำชุมชน จนเกิดความเข้าใจผิดกันและถูกควบคุมตัว
ความคืบหน้าล่าสุด จากกรณีนายเอกลักษณ์ ตะโกเนียม ชาวจังหวัดชลบุรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าถูกเจ้าหน้าที่ทางลาวกักตัว บริเวณหมู่บ้านโคกป่าทอน เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป ลาว หลังเดินทางข้ามแดนจากด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 จึงโพสต์ข้อความเพื่อขอความช่วยเหลือกับทางการไทย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.20 น. นายเอกลักษณ์ ได้รับการปล่อยตัว มีนายกิตติศักดิ์ หล่อปฏิมากร รองกงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันเขต สปป ลาว เดินทางมาส่งด้วยตนเอง โดยข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 ขณะด้านฝั่งไทยมีนายรังสรรค์ คัมภิรานนท์ รองผู้ว่าฯ นครพนม นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม และ พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม รอต้อนรับ
หลังผ่านกระบวนการตรวจสอบเอกสารแล้ว จนท.ตม.ได้พานายเอกลักษณ์ มาแถลงข่าว เปิดเผยถึงการเดินทางข้ามไปยังฝั่ง สปป ลาว ว่าได้เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี เนื่องจากคุณแม่ถูกทำร้ายที่ฝั่งลาว จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม จากนั้นได้ว่าจ้างรถโดยสารของสปป ลาว ข้ามแม่น้ำโขงไป เพื่อจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลาว กรณีที่คุณแม่ถูกทำร้ายจากคนไม่ทราบชื่อและสัญชาติ แต่ด้วยที่ไม่ทราบกฎหมายของสปป ลาว จึงไม่ได้แจ้งวัตถุประสงค์กับผู้นำชุมชน จนเกิดความเข้าใจผิดกัน จึงเป็นที่มาของการถูกควบคุมตัว และด้วยความกลัวจึงโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยไม่ได้ไตร่ตรอง ทางการลาว จึงไม่พอใจที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ความจริงตนเองเป็นผู้เข้าไปกระทำความผิดกฎหมายของประเทศเขาเอง
ด้านนายกิตติศักดิ์ รองกงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันเขต กล่าวว่าอยากให้สังคมโซเชียลตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทบต่อความมั่นคง หลังเกิดเหตุการณ์ สถานเอกอัครราชฑูตประจำกรุงเวียงจันทน์ ได้ประสานกับเจ้าแขวงคำม่วน พร้อมให้กงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันเขต เร่งเดินทางมาสอบถามข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันทางจังหวัดนครพนม โดยนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าฯ นครพนม ก็ประสานกับเจ้าแขวงคำม่วน เพื่อเจรจาขอปล่อยตัว ซึ่งทางการลาวให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ และไม่ได้ปรับสินไหม การจะเดินทางเข้าประเทศใดจึงแนะนำให้ศึกษาข้อกฎหมายให้ถ่องแท้ การท่องเที่ยวก็จะมีความสุข.-สำนักข่าวไทย