เมียนมาร์ 29 ส.ค.-ชาวเมียนมาร์ ตั้งความหวังสันติภาพจะบังเกิดขึ้นในประเทศ ขณะที่การเจรจาสันติภาพครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างตัวแทนฝ่ายรัฐบาลเมียนมาร์ กองทัพ และชนกลุ่มน้อยต่างๆในประเทศ กำลังจะเปิดฉากขึ้นในวันพุธที่จะถึงนี้ และจะกินระยะเวลายาวนาน 5 วัน หวังสร้างเอกภาพในประเทศก่อนเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
การประชุมสันติภาพครั้งใหญ่ที่สุด ของเมียนมาร์ หรือที่เรียกกันว่าการประชุมปางโหลงในศตวรรษที่ 21 กำลังจะเปิดฉากขึ้น ที่กรุงเนปิดอร์ นครหลวง ในวันพุธที่จะถึงนี้ และจะดำเนินไปจนถึงวันอาทิตย์สุดสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ชาวเมียนมาร์หลายคนยังไม่มั่นใจว่าแผนการสันติภาพ ที่ริเริ่มขึ้นโดยนายพลอองซาน บิดาของนางซูจีเมื่อเกือบ 70 ปีก่อน จะสำเร็จลุล่วงเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ในยุคปัจจุบัน เวลานี้ผู้เชี่ยวชาญการเมืองและชาวเมียนมาร์ต่างแสดงความเห็นหลากหลาย โดยบ้างก็กล่าวว่า นี่จะเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของนางอองซาน ซูจี นับตั้งแต่นางเข้ารับตำแหน่งมนตรีแห่งรัฐ และผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมาร์
หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกล่าวว่า เชื่อมั่นในตัวนางซูจี ซึ่งจะเป็นผู้นำการประชุมในครั้งนี้ด้วยตัวเอง และการประชุมครั้งนี้ยังจะมีนายบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติเข้าร่วมด้วยเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามนายซอ มิน หม่อง นักประวัติศาสตร์เมียนมาร์ให้ทัศนะว่า การประชุมครั้งนี้คงยาก จะเห็นผลเป็นรูปธรรม เพราะทุกกลุ่มที่เข้าร่วมการประชุมจะมีเวลาแค่คนละ 10 นาทีในการขึ้นพูด ซึ่งไม่เพียงพอที่จะหารือในรายละเอียดที่ซับซ้อนมาก เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว รัฐบาลของประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกองกำลังชนกลุ่มน้อย 8 กลุ่ม แต่ยังมีอีก 7 กลุ่ม ที่ไม่ยอมลงนาม และบางกลุ่มก็ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุม ขณะที่บางกลุ่มก็ไม่สนใจข้อตกลงสันติภาพนี้ รวมถึงกลุ่มกองกำลังที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดด้วย.-สำนักข่าวไทย