ธ.ก.ส.เตรียมออกพันธบัตรต้นไม้

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – ธ.ก.ส.เตรียมออกพันธบัตรต้นไม้ คาดชัดเจนไตรมาส 2 ปี 62 พร้อมหนุนสร้างชุมชนไม้มีค่าทั่วประเทศ ตั้งเป้า 20,000 ชุมชน ปลูกต้นไม้เพิ่มกว่า 1,000 ล้านต้น ภายใน 10 ปี


นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. เตรียมออกพันธบัตรการตอบแทนระบบนิเวศ หรือพันธบัตรต้นไม้ (Tree Bond) ซึ่งพันธบัตรนี้ไม่ใช่เพื่อการระดมทุนแต่เป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการดำเนินโครงการและรายละเอียดกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 2 ปี 2562 โดยผลตอบแทนจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผลตอบแทนเป็นตัวเงินและผลตอบแทนที่สามารถใช้เป็นคาร์บอนเครดิต เพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ และอยู่ระหว่างการหารือกับกรมสรรพากร เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ด้วย


นอกจากนี้ ภายในปี 2563 ธนาคารได้จัดเตรียมโครงการสินเชื่อส่งเสริมและสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Credit) วงเงิน 5,000 ล้านบาท เบื้องต้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR –ร้อยละ 1 หรือประมาณร้อยละ 6 ต่อปี เพื่อส่งเสริมการสร้างชุมชนเกษตรอินทรีย์อย่างน้อยจังหวัดละ 1 ชุมชนและสินเชื่อปลูกป่าระยะยาว ระยะเวลา 15 – 20 ปี บนที่ดินของตนเองและของชุมชน เพื่อสนับสนุนให้มีการปลูกไม้มีค่าทุกชนิด ไม่ได้จำกัดแค่ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ 58 ชนิดเท่านั้นและยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในที่ดิน เปรียบเสมือนการออมทรัพย์หรือการลงทุนระยะยาว ส่วนอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมว่าเป็นเท่าใด อาจจะมีระยะปลอดดอกเบี้ยด้วย

ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ร่วมกับกรมป่าไม้  องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ เพื่อขับเคลื่อนโครงการชุมชนไม้มีค่าตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2561 ซึ่งมี เป้าหมายให้เกิดชุมชนไม้มีค่า 2,000 ชุมชน มีประชาชนได้รับประโยชน์ 100,000 ครัวเรือน มีจำนวนต้นไม้ในประเทศเพิ่มขึ้น 40 ล้านต้นภายใน 1 ปี และจะมีการดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อสร้างชุมชนไม้มีค่าให้ได้ 20,000 ชุมชน มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 2.6 ล้านครัวเรือน และมีจำนวนต้นไม้ที่ปลูกเพิ่มขึ้น 1,040 ล้านต้น ภายใน 10 ปี โดยในส่วนของ ธ.ก.ส.มีแผนงานยกระดับโครงการธนาคารต้นไม้ ธ.ก.ส.สู่ชุมชนไม้มีค่า ซึ่งจะมีการพัฒนาผู้ตรวจประเมินมูลค่าต้นไม้เพื่อเป็นหลักประกันทางธุรกิจและผู้ประเมินการกักเก็บคาร์บอน รวม 4,000 คน แผนการสนับสนุนการกักเก็บคาร์บอนตามแนวทางโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS) ให้กับ 6,804 ชุมชน รวมถึงการสร้างวิสาหกิจชุมชนด้านผลิตภัณฑ์ไม้ของชุมชน เพื่อเพิ่มมูลค่า จากการนำวัตถุดิบที่ได้จากต้นไม้ เช่น กิ่ง ใบ ลาต้น มาแปรรูปไม้และสร้างรายได้แก่ชุมชน โดยมีเป้าหมาย 400 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกธนาคารต้นไม้กว่า 6,827 ชุมชน จำนวนสมาชิก 117,461 ราย และมีต้นไม้ที่ขึ้นทะเบียนในโครงการ 11,846,190 ต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต เข้ามอบตัว

สาวขับรถหรู ชน 3 แม่ลูกเสียชีวิตที่ชุมพร เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว อ้างยืมรถเพื่อนมาขับ ศาลให้ประกันตัววงเงิน 1 แสนบาท

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท

เตรียมรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2-กู้ร่างผู้สูญหาย

ช่วงบ่ายนี้ (29 พ.ย.) จนท.กรมทางหลวง สภาวิศวกรรมสถาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำรถเครนรื้อถอนเหล็กถักที่ถล่มบน ถ.พระราม 2 โดย ปภ.สมุทรสาคร ไม่มั่นใจว่าการดำเนินการจะจบภายในวันเสาร์-อาทิตย์นี้หรือไม่

คานถล่มพระราม2

ตร.ทางหลวง แนะเลี่ยงถนนพระราม 2 หลังการจราจรเข้าขั้นวิกฤต

ตำรวจทางหลวง เผยการจราจรถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต แนะเส้นทางเลี่ยงทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานคร ยังไม่ชัดเปิดการจราจรได้ตามปกติเมื่อใด

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถ.พระราม 2 ตัดสิทธิรับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิรับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ