ทำเนียบรัฐบาล 8 ก.ย.-ผู้ช่วยโฆษกรัฐบาลเผยรัฐบาลเตรียมต้อนรับนายกฯมาเลเซีย ประชุมครม.ร่วมสองประเทศ เตรียมหารือความร่วมมือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า พร้อมลงนามในบันทึกความตกลงร่วมกันหลายฉบับ
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้(9 กย.59 ) ดาโต๊ะ ซรี โมฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและภริยาจะเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่อเข้าร่วมการประชุมประจำปีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ครั้งที่ 6 ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีรัฐมนตรีว่ากระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการเกษตร กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย และสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมด้วยจำนวน 9 คน และมีกำหนดการสำคัญ ได้แก่ การหารือกลุ่มเล็ก การหารือเต็มคณะ การเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความร่วมมือ การแถลงข่าวร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงอาหารค่ำให้กับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียพร้อมภริยา
ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมหารือประจำปีมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำ ทบทวนความสัมพันธ์ที่ผ่านมา และติดตามความร่วมมือในด้านต่าง ๆ การประชุมครั้งนี้จะให้ความสำคัญกับการหารือแนวทางเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในโอกาสที่ทั้งสองประเทศจะฉลองวาระครบรอบ 60 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2560 และการเป็นประชาคมอาเซียน
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะหารือกัน อาทิ ความร่วมมือด้านความมั่นคง ได้แก่ การบริหารจัดการชายแดน การปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การลักลอบการค้ามนุษย์ ความมั่นคงทางไซเบอร์ การก่อการร้ายระหว่างประเทศและแนวคิดสุดโต่ง ความร่วมมือในการแก้ไขสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) และกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในจชต. โดยมีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว โดยหารือแนวทางให้มีการบรรลุเป้าหมายทางการค้ามูลค่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2561 การส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการจัดทำจุดหมายปลายทางร่วมด้านการท่องเที่ยว
“การพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงในพื้นที่ชายแดนและอำนวยความสะดวกบริเวณพื้นที่ชายแดนเพื่อสร้างความกินดีอยู่ดีให้แก่ประชาชนในพื้นที่ อาทิ การขยายด่านสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลกสองแห่งเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดนราธิวาสกับรัฐกลันตัน//การเชื่อมโยงโครงการเมืองยางพาราระหว่างนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ จังหวัดสงขลากับโครงการเมืองยางพาราโกตาปุตรา รัฐเกดะห์ และการเร่งรัดการหาข้อสรุปความตกลง บันทึกความเข้าใจที่คั่งค้าง อาทิ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการเกษตรและบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา” ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าวว่า โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายจะหารือเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในฐานะที่ประเทศมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุยสันติสุข เพื่อให้การบับเคลื่อนมีความก้าวหน้า โดยคาดว่าผู้ที่ร่วมหารือในครั้งนี้น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับนโยบาย ตลอดจนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการเยียวยาผู้ก่อความไม่สงบด้วย และภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรีสองฝ่ายจะเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการยางพาราที่นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ จังหวัดสงขลาและเมืองโกตาปุตราระหว่างการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกับบริษัท Tradewinds Plantation Berhad ด้วย
ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีภารกิจส่วนตัวที่จะอยู่ในประเทศไทยช่วงสุดสัปดาห์นี้(10-11 ก.ย.) ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนและยังไม่ทราบว่าจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ ซึ่งทางรัฐบาลไทยมีความพร้อมในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำเนียบรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสถานที่ให้การต้อนรับ โดยจะใช้ตึกสันติไมตรีหลังนอกเป็นสถานที่จัดประชุม และตึกสันติไมตรีหลังในเป็นสถานที่จัดเลี้ยงอาหารค่ำ และเตรียมความพร้อมด้านหน้าสนามหญ้าติกไทยคู่ฟ้า ให้เป็นพื้นที่ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ เพื่อต้อนรับ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียพร้อมคณะ.-สำนักข่าวไทย