ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูล”นริศร”ฐานเสียบบัตรแทนกัน
ป.ป.ช.สนามบินน้ำ 8 ก.ย.-ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ชี้มูลความผิด “นริศร ทองธิราช” เสียบบัตรแทนกัน ให้ดำเนินคดีอาญาและถอดถอน ส่วน”คมเดช-ยุทธพงศ์” รอด เพราะไม่มีมูล และ ดำเนินคดีอาญา “สมศักดิ์-อุดมเดช” ศัพท์เปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญ
น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงผลการพิจารณาข้อกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่และกรณีร้องขอให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง ในเรื่องการเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ในประเด็นเกี่ยวกับการใช้บัตรลงคะแนนแทนกัน การนับเวลาแปรญัตติโดยมิชอบ และการซับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าการกระทำของนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ใช้บัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ลงคะแนนแทนบุคคลอื่นมีมูลความผิดทางอาญาเห็นควรส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ส่วนนายคมเดช ไชยศิวามงคล อดีตส.ส.กาฬสินธุ์ และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตส.ส.มหาสารคม พรคคเพื่อไทยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพียงพอว่ามีพฤติกรรมในการฝากบัตรแสดงตนไว้กับนายนริศร เพื่อให้ลงคะแนนแทนตนเองหรือผู้อื่น และมิได้เป็นผู้ใช้หรือเป็นตัวการร่วม จึงไม่มีความผิดเห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป
น.ส.สุภา กล่าวต่อว่า สำหรับการกระทำของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรกรณีรู้เห็นให้มีการสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมโดยไม่มีการตรวจสอบให้ถูกต้องตามหน้าที่ประธานรัฐสภา และไม่สั่งให้มีการนำไปเสนอ ให้สมาชิกรัฐสภาร่วมลงชื่อรับรอง ญัตติ และกรณีจงใจนับเวลาแปรญัตติย้อนหลัง ทำให้เหลือระยะเวลาให้สมาชิกรัฐสภาเสนอคำแปรญัตติเพียงหนึ่งวัน มีมูลความผิดทางอาญาเห็นควรส่งรายงานและเอกสารให้อัยการสูงสุดฟ้องดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อย่างไรก็ตามการเสนอถอดถอนนายสมศักดิ์ เคยมีมติและส่งให้สภานิติบัญญัติพิจารณาแล้ว และมีมติไม่ถอดถอน จึงเห็นควรไม่ส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่พร้อมทั้งความเห็นไปยังประธานสภานิติบัญญัติ
ส่วนกรณีสลับสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับที่มาของสมาชิกวุฒิสภาที่เสนอต่อประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2556 โดยไม่มีสมาชิกรัฐสภาลงลายมือชื่อรับรอง มีมูลความผิดทางอาญาเห็นควรส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่ให้อัยการสูงสุดฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และส่งรายงานเอกสารไปยังประธานสภานิติบัญญัติเพื่อให้สภา นิติบัญญัติมีมติถอดถอนนายอุดมเดช รัตนเสถียร ออกจากตำแหน่งต่อไป-สำนักข่าวไทย.-212(221)