กรมบัญชีกลางเร่งเครื่องมาตรการเพิ่มเงินชดเชยและออมเงินผู้มีรายได้น้อย

กรุงเทพฯ  18 ต.ค. – กรมบัญชีกลางเร่งเครื่องมาตรการชดเชยเงินจากภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้มีรายได้น้อย พร้อมขยายเวลารับสมัครร้านธงฟ้าประชารัฐถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2561  


นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับมาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีรายได้น้อยชำระว่าขณะนี้กรมบัญชีกลางอยู่ระหว่างเปิดรับสมัครร้านธงฟ้าประชารัฐกลุ่มเป้าหมาย  3,000 ร้านค้า และมีร้านธงฟ้าประชารัฐกว่า 1,300 ร้านค้า สมัครเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ส่งข้อมูลร้านค้าให้ ธนาคารกรุงไทยเตรียมติดตั้งอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน (Point of Sale : POS) แล้ว และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับร้านค้าที่สนใจแต่ยังไม่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการ จึงได้ขยายวันปิดรับสมัครจากเดิมวันที่ 15 ตุลาคม เป็นวันที่ 26 ตุลาคม 2561 ร้านค้าที่มีที่ตั้งในเขต กทม. สมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง ส่วนในต่างจังหวัดสมัครได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ 

สำหรับการติดตั้งเครื่อง POS นั้น เมื่อกรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดได้รับข้อมูลการสมัครและบันทึกข้อมูลร้านค้าที่จะติดตั้งเครื่อง POS เข้าระบบเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะส่งข้อมูลดังกล่าวให้ ธนาคารกรุงไทยติดตั้งเครื่อง POS ให้กับร้านค้าที่สมัครเข้ามาก่อนภายใน 15 วัน นอกจากนี้ จะติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่หน้าร้านค้า เพื่อแสดงว่าเป็นร้านที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย ที่สำคัญร้านค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแต่อย่างใด และเนื่องจากขณะนี้มีมิจฉาชีพแอบอ้างและติดต่อไปยังร้านธงฟ้าประชารัฐเพื่อเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเครื่อง POS ขอให้อย่าหลงเชื่อ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ  


หากร้านธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าเอกชนอื่นที่สนใจเข้าร่วมมาตรการนี้ก็สามารถสมัครได้ โดยร้านค้าที่ยังไม่มีเครื่อง POS จะต้องลงทุนติดตั้งเครื่องเองก่อน และแจ้งความประสงค์มาที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัด ส่วนร้านค้าที่มีเครื่อง POS อยู่แล้ว ก็ให้แจ้งความประสงค์มาที่กรมบัญชีกลางหรือสำนักงานคลังจังหวัดได้เช่นเดียวกัน เพื่อรวบรวมข้อมูลของร้านค้าส่งให้ธนาคารกรุงไทยทดสอบการรับส่งข้อมูลต่อไป 

มาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ธนาคารกรุงไทยจะเริ่มคัดแยกข้อมูลภาษีเมื่อผู้มีสิทธิ์ได้ชำระราคาสินค้าหรือบริการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 30 เมษายน 2562 ซึ่งเป็นการใช้จ่ายจริงผ่านบัตรแต่ละเดือน แบ่งออก  เป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.ร้อยละ 1 จะกันไว้เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม 2.ร้อยละ 6 จะจำแนกออกเป็นร้อยละ 5 เพื่อนำไปใช้จ่ายเงิน ในส่วนนี้จะโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e – Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  และร้อยละ 1 เพื่อการออม เมื่อรวมกันทั้ง 2 ส่วนต้องไม่เกิน 500 บาทต่อคนต่อเดือน ซึ่งเงินชดเชยดังกล่าวกรมบัญชีกลางจะโอนให้ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป หากตรงกับวันหยุดจะเลื่อนเป็นวันทำการก่อนวันหยุด

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า สำหรับการออมของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน กรมบัญชีกลางจึงได้เชิญผู้แทนจากกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ประชุมร่วมกัน ซึ่งได้ข้อสรุปว่ากรมบัญชีกลางจะตรวจสอบฐานข้อมูลของระบบ e – Social Welfare ก่อนจะส่งข้อมูลให้กับธนาคารต่อไป และเพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยไม่ต้องไปติดต่อที่ธนาคารซึ่งการดำเนินการผ่อนคลายเงื่อนไขนี้ กรมบัญชีกลางได้หารือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้ว ซึ่งในกรณีนี้ธนาคารสามารถเปิดบัญชีให้ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามที่กรมบัญชีกลางจะส่งข้อมูลให้ได้ก่อน โดย ธ.ก.ส.จะเปิดบัญชีให้กับผู้มีรายได้น้อยที่มีอาชีพเกษตรกรและลูกจ้างภาคเกษตรกรรม (รับจ้างทำนา ทำสวน กรีดยาง) ส่วนธนาคารออมสินจะเปิดบัญชีให้กับผู้มีรายได้น้อยในอาชีพอื่น ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นต้นไป 


สำหรับเงื่อนไขการออมมี 3 กรณี คือ 1.เป็นสมาชิก กอช.อยู่แล้ว กรมบัญชีกลางจะโอนเข้าบัญชี เงินฝากที่ได้เปิดไว้ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป  2. ยังไม่เป็นสมาชิก กอช. แต่มีคุณสมบัติในการสมัคร กรมบัญชีกลางจะโอนเข้าบัญชี ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปเช่นเดียวกัน และจะแจ้งให้ กอช.รับสมัครเป็นสมาชิกต่อไป ซึ่งต้องรวบรวมเงินให้ครบ 50 บาท ก่อนจึงจะโอนเงินเข้าบัญชีรายตัวเช่นเดียวกันทั้ง 2กรณี โดยมีอัตราผลตอบแทนและการถอนเงินเป็นไปตามเงื่อนไขของ กอช. และ กอช. จะส่ง Statement ให้สมาชิกเพื่อตรวจสอบเงินออม ปีละ 1 ครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ และ 3. หากเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติการเป็นสมาชิก กอช. เงินออมดังกล่าวจะถูกสะสมไว้ในบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีรายได้น้อยที่ ธ.ก.ส./ธนาคารออมสิน โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและห้ามถอนออกเป็นระยะเวลา 3 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน