กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – รฟท.ชี้แจงข้อมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ครั้งที่ 2 และเปิดให้ผู้ซื้อเอกสารส่งข้อเสนอแนะ ตรวจสอบข้อมูลหรือรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการจนถึง 9 ต.ค.นี้
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ครั้งที่ 2 เพื่อให้เอกชนผู้ซื้อซองได้สอบถามข้อมูลและข้อสงสัยต่อโครงการอย่างเป็นทางการ โดยมีผู้บริหาร รฟท. ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ผู้แทนกระทรวงคมนาคม ผู้บริหาร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เข้าร่วม
นายวรวุฒิ กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ถือเป็น 1 ในโครงการเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเชื่อมโยงเดินทางของผู้โดยสาร 3 ท่าอากาศยานเข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ท่องเที่ยวให้เดินทางถึงกันได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก รวมทั้งเชื่อมโยงกับการคมนาคมขนส่งทางถนนและทางเรือได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา รฟท.ได้จัดการประชุมชี้แจงโครงการครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 หลังจากนั้นเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อเอกสารได้ส่งคำถาม หรือข้อสงสัยต่าง ๆ เข้ามา เพื่อรวบรวมประเด็นทั้งหมด และนำมาชี้แจงให้ความกระจ่าง ซึ่งปรากฎว่ามีผู้สนใจสอบถามข้อมูลมาถึง 626 คำถาม โดยมีประเด็นที่หลากหลาย ทั้งด้านการเงินการลงทุน ร่างสัญญาร่วมลงทุน การก่อสร้าง การเดินรถ รวมถึงข้อกำหนดของ รฟท.ด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานี งานโยธา งานระบบรถไฟ และเทคโนโลยีต่าง ๆ
โดยภายหลังจากงานวันนี้ รฟท.ยังจะเปิดให้ผู้ซื้อเอกสารส่งข้อเสนอแนะหรือคำถามเกี่ยวกับเอกสารการคัดเลือกเอกชนตลอดจนตรวจสอบข้อมูลหรือรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับโครงการได้จนถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2561 และให้เอกชนยื่นข้อเสนอในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2561 เวลา 09.00 – 15.00 น.
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเป็นโครงการที่ใช้โครงสร้างและแนวเส้นทางการเดินรถเดิมของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแอร์พอร์ต เรล ลิ้งก์ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยจะก่อสร้างทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร (Standard Gauge) ส่วนต่อขยาย 2 ช่วงจากสถานีพญาไท ไปยังสนามบินดอนเมือง และจากสถานีลาดกระบัง ไปยังสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะถือเป็นมิติใหม่ในการลงทุนร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของไทยในเวทีโลกและร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในอนาคต.-สำนักข่าวไทย