กรุงเทพฯ 14 ก.ย.- คสช.ออกคำสั่งคลายล็อกพรรคการเมือง เปิดช่องให้พรรคการเมืองรับสมัครสมาชิกพรรค จัดประชุมพรรค เลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค งดทำไพรมารีโหวต ให้ใช้คณะกรรมการสรรหาคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แทน กำหนดให้ กกต.แบ่งเขตและประกาศเขตเลือกตั้งให้เสร็จก่อนวันที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2561 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรรคการเมือง (เพิ่มเติม)
คำสั่งดังกล่าวออกมาเพื่อแก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 53/2560 เพื่อเปิดช่องให้พรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมได้ สาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าว ให้ยกเลิกข้อความมาตรา 141 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และให้พรรคการเมืองดำเนินการดังต่อไปนี้แทน คือ ในการจัดตั้งพรรคการเมือง จัดให้มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 180 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่งนี้
ให้มีสมาชิก ไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงพรรคการเมือง ภายใน 180 วัน และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนพรรคทราบ พร้อมหลักฐาน ภายใน 15 วัน สมาชิกพรรคต้องชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองจำนวนไม่น้อยกว่า 5 พันคน ภายใน 1 ปี และให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 1 หมื่นคน ภายใน 4 ปี ถ้าพรรคการเมืองทำไม่ครบถ้วนจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้
หากพรรคการเมืองประสงค์จะดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ในเรื่องเหล่านี้ต้องแจ้งให้ กกต. ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน คือ
1.แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ คำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายของพรรคการเมือง
2. เลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิกพรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรคการเมือง
3. จัดตั้งสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคประจำจังหวัด
4. รับสมัครสมาชิกพรรคการเมือง
5. จัดให้มีกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง
6. มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้ง
7. กิจกรรมทางการเมืองอื่นที่ คสช.กำหนด
ในคำสั่งยังยกเลิกการทำไพรมารีโหวต และกำหนดให้พรรคการเมืองดำเนินการจัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรคการเมือง 4 คน ตัวแทนสมาชิกที่พรรคการเมืองเลือก 7 คน ซึ่งจะมีหน้าที่และอำนาจพิจารณาเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบ ซึ่งในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมือง เพื่อเสนอกรรมการบริหารพรรคให้ความเห็นชอบให้พิจารณาจากสมาชิกที่แสดงความจำนงด้วยตนเองกับมีสมาชิกเสนอ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กรรมการสรรหากำหนด
โดยให้คำนึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง จากภูมิภาคต่าง ๆ และความเท่าเทียมกันระหว่างชาย หญิง นอกจากนี้ให้รับฟังความเห็นของหัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคและสมาชิก ทั้งนี้เมื่อกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบผู้สมัครแล้วให้หัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองให้เป็นผู้สมัครของพรรค และจัดทำบัญชีรายผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อด้วย
ในกรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรคไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่กรรมการสรรหาเลือกเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการสรรหา สรรหาใหม่ หากกรรมการสรรหายืนยันคนเดิม และกรรมการบริหารพรรคไม่ให้ความเห็นชอบอีกให้คณะกรรมการ บริหารพรรคและกรรมการสรรหาประชุมร่วมกัน และมีมติอย่างไรให้ดำเนินการตามนั้น ซึ่งการลงมติต้องเป็นการลงคะแนนลับ และเมื่อกรรมการบริหารพรรคให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แล้ว ภายใน 7 วันให้พรรคการเมืองเปิดเผยรายชื่อต่อสาธารณะ
ให้พรรคการเมืองประชาสัมพันธ์หรือติดต่อสื่อสารกันเองได้ภายในพรรคด้วยสื่อโซเชียลได้ แต่ต้องไม่ใช่ในลักษณะการหาเสียง
และ กกต.ต้องแบ่งเขตเลือกตั้ง ให้แล้วเสร็จก่อนวันที่กฎหมายเลือกตั้งมีผลบังคับใช้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการคลายล็อกเพื่อให้พรรคการเมืองและ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งดำเนินการในช่วง 90 วัน ก่อนที่กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นไปตามที่รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับกกต. ก่อนหน้านี้ และคาดว่าจะมีคำสั่งปลดล็อกอีกครั้งช่วงกลางเดือนธันวาคม.-สำนักข่าวไทย
คำสั่ง คสช.ที่ 13/2561
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/225/T24.PDF