กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-น้องทราย นักเรียนชั้น ม.5 ที่ถูกครูปาแก้วใส่หน้า เข้าทำ MRI กล้ามเนื้อและเส้นประสาท เพื่อหาสาเหตุ สหแพทย์ร่วมประเมินอาการ
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำนักเรียนชั้น ม.5 ที่ถูกครูพละขว้างแก้วใส่ จนได้รับผลกระทบถึงเส้นประสาทใบหน้า เกิดอาการปากเบี้ยว ไม่สามารถหลับตาได้ เข้ารับการรักษาที่ รพ.ยันฮี เพื่อสแกนคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) ตรวจดูกล้ามเนื้อว่ามีอาการกล้ามเนื้อฝ่อ หรือกล้ามเนื้อบีบรัดเส้นประสาทหรือไม่ และวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) จะตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (EMG) เพื่อดูการทำงานของเส้นประสาทคู่ที่ 7 บริเวณใบหน้าว่าขาดหรือไม่ จากนั้นทีมแพทย์สหสาขาจะร่วมกันประเมินอาการและวางแนวทางการรักษา โดยคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 3 วัน จึงจะทราบสาเหตุที่แท้จริง
นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รพ.ยันฮี ยอมรับว่าหนักใจ หากพบว่าเส้นประสาทขาด เนื่องจากการต่อเส้นประสาทที่ผ่านมา 1 เดือน ปลายประสาทเริ่มหดตัวแล้ว ทำให้ต่อได้ยากขึ้น แต่หากไม่ได้ผลก็จะใช้วิธีการรักษาด้วยการย้ายเส้นประสาทแทน ดังนั้น ผู้ป่วยมีโอกาสหาย แต่ต้องทราบสาเหตุก่อน
ด้านน้องทราย ยอมรับว่า รู้สึกกังวลต่อการรักษา แต่เชื่อมั่นในทีมแพทย์ ขณะนี้ยังมีอาการเจ็บบริเวณกกหูและแสบตา เนื่องจากอาการตาแห้ง พร้อมปฏิเสธกระแสข่าวมีเพื่อนนักเรียนออกมาโต้แย้งว่าไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าครูพละตั้งใจปาแก้วมาที่ตนเอง ส่วนเรื่องการย้ายโรงเรียนยังอยู่ระหว่างการพูดคุยในครอบครัว.-สำนักข่าวไทย