นนทบุรี 30 พ.ค. – “พาณิชย์” แก้ปัญหาราคากระเทียมตกต่ำ ดึง “ชายสี่บะหมี่เกี้ยว” ซื้อผลผลิตจากเกษตรกร พร้อมประสานห้าง ตลาด ช่วยระบายอีกทาง
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหากระเทียมราคาตกต่ำ ว่า ในส่วนของการหาตลาดรองรับผลผลิตกระเทียม กรมฯ ได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัท ชายสี่บะหมี่เกี้ยว จำกัด ให้เข้ามาช่วยรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกร เพื่อนำไปทำกระเทียมเจียว และกระจายไปยังร้านบะหมี่ที่มีอยู่จำนวนกว่า 4,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งทางชายสี่ฯ ได้รับที่จะเข้ามาช่วยซื้อแล้ว และคาดว่าจะส่งผลดีให้ราคากระเทียมของเกษตรกรปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ การระบายผลผลิตช่องทางอื่น กรมฯ ได้ทำการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ตลาดไท ให้เข้ามาช่วยรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร โดยที่เชียงใหม่ได้ทำสัญญารับซื้อ 440 ตัน ที่แม่ฮ่องสอนรับซื้อกระเทียมแห้ง 101 ตัน และกระเทียมสด 200 ตัน และยังได้ประสานนำกระเทียมไปจำหน่ายในช่องทางอื่นๆ ทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาดสด ตลาดต้องชม เป็นต้น
โดยผลผลิตกระเทียมปี 2561 มีปริมาณ 7.65 หมื่นตัน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.6 ซึ่งผลผลิตมากกว่าปีที่แล้วที่มีปริมาณ 6.9 หมื่นตัน ทำให้ราคาปีนี้ไม่ค่อยดีนัก โดยราคากระเทียมสดเฉลี่ย 4 เดือนปี 2561 (ม.ค.-เม.ย.) อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 13.60 บาท กระเทียมแห้งเฉลี่ย 20-25 บาทต่อกก. และกระเทียมมัดจุกใหญ่เดือนพ.ค. อยู่ที่ 77.5 บาทต่อกก. เกษตรกรจึงเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหา
นายพันธ์รบ กำลา ประธานกรรมการบริษัท ชายสี่บะหมี่เกี้ยว จำกัด กล่าวว่า ในแต่ละวันมีคนบริโภคบะหมี่ประมาณ 5 แสนชาม และใช้กระเทียมเจียวเป็นวัตถุดิบในการทำบะหมี่ประมาณ 60 ตันต่อปี และปีนี้จะขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 1,000 สาขา ทำให้มีความต้องการใช้กระเทียมเพิ่มอีก 5 ตัน ซึ่งพร้อมที่จะรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกรมาทำเป็นกระเทียมเจียวทั้งหมด จากเดิมที่รับซื้อจากซัปพลายเออร์ นอกจากนี้ ยังพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือในการรับซื้อและกระจายกระเทียมจากแหล่งผลิตไปยังพื้นที่อื่น โดยจะใช้ระบบโลจิสติกส์ของชายสี่ฯ ที่มีอยู่ประมาณ 90 เส้นทาง ที่เดิมใช้ในการจัดส่งวัตถุดิบให้กับร้านบะหมี่ที่เป็นแฟรนไชส์ ก็จะนำมารับซื้อกระเทียมจากเกษตรกร และนำไปจำหน่ายในจุดอื่นๆ ที่ไม่มีกระเทียมให้ด้วย เพราะรถต้องวิ่งขนส่งอยู่แล้ว
นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า จะเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศ ทั้งการนำเข้าผ่านด่านศุลกากร และการลักลอบการนำเข้า โดยในการนำเข้าผ่านด่านศุลกากร หากมีการสำแดงราคาต่ำเกินจริง ก็จะให้สำแดงราคาให้ถูกต้องใกล้เคียงกับราคาตลาด เพื่อป้องกันกระเทียมราคาถูกเข้ามากระทบราคาในประเทศ และในส่วนของการลักลอบนำเข้า จะมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะตามจุดที่คาดว่าจะมีการลักลอบนำเข้า เช่น ตามแนวชายแดน ตามริมแม่น้ำโขง หากพบก็จะจับกุมดำเนินคดีทันที โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มีการจับกุมได้จำนวน 137 ราย น้ำหนักกระเทียม 417 ตัน มูลค่าประมาณ 16 ล้านบาท และตั้งแต่เดือนต.ค.2560-เม.ย.2561 จับกุมได้แล้ว 60 ราย ปริมาณ 124 ตัน มูลค่าประมาณ 4.36 ล้านบาท
พล.ต.เรืองสิทธิ์ มิตรภานนท์ รอง ผอ.ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวว่า พร้อมที่จะให้ข้อมูลด้านการข่าว กรณีตรวจสอบพบว่าอาจจะมีการลักลอบ และพร้อมที่จะร่วมมือในการตรวจสอบ ตั้งด่านสกัดการลักลอบนำเข้ากระเทียมและสินค้าอื่นๆ
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับมาตรการที่กรมฯ นำมาใช้ในการดูแลการนำเข้ากระเทียม ส่วนใหญ่เป็นการกำกับดูแลการนำเข้าให้เป็นไปตามพันธกรณี คือ การนำเข้าภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งกำหนดการนำเข้าในโควตา ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) นำเข้าได้หน่วยงานเดียวปริมาณ 65 ตัน ภาษีร้อยละ 27 และนอกโควตา ให้นำเข้าได้ทั่วไป แต่ต้องมาขึ้นทะเบียนกับกรมฯ เป็นรายปี ภาษีที่ร้อยละ 57 ซึ่งมีผู้มาขึ้นทะเบียนแล้ว 134 ราย การนำเข้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ภาษีร้อยละ 0 ให้นำเข้าได้ช่วงก.ค.- ต.ค. โดยกำหนดด่านนำเข้า และให้แจ้งแผนการใช้ และกรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน – จีน กำหนดเหมือนการนำเข้าภายใต้ WTO ต่อไป.-สำนักข่าวไทย