กทม.16 พ.ค.- จนท.เร่งอายัดรถยนต์หรูของสามีภรรยาเจ้าของ”เมจิกสกิน”รวมมูลค่า 68 ล้าน จ่อเอาผิดผู้ช่วยอำพรางทรัพย์สิน เปิดอีก 6 คนดังรับรีวิวสินค้า พร้อมเรียกมาให้ปากคำ 26 พ.ค.นี้
พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.แถลงปฏิบัติการติดตามอายัดทรัพย์สินผู้ต้องหาในเครือเมจิกสกินว่า จาการสืบสวนสอบสวนล่าสุด พบรถยนต์ 30 คัน ในความครอบครองของนางวรรณภา และนายกร พวงสน สามีภรรยา เจ้าของเมจิกสกิน เป็นรถยนต์หรูและรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ อาทิ ลัมโบกินี, พอร์ช, จากัวร์, ออดี้, มินิ และรถยนต์ยี่ปุ่นรวมมูลค่า 68 ล้านบท ซึ่งตำรวจมีหลักฐานว่าได้มาจากการขายสินค้าในเครือเมจิกสกิน และบุคคลใกล้ชิดกำลังยักย้ายถ่ายเทรถทั้ง 30 คัน ไปฝากตามบ้านญาติ เต็นท์รถมือสอง และกลุ่มที่ทำธุรกิจด้วยกัน เพื่ออำพราง หลีกเลี่ยงการตรวจยึด รวมทั้งมีความพยายามขายรถดังกล่าวอีกด้วย จึงมีหนังสือถึงอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ในฐานะนายทะเบียน หากพบการซื้อขายรถของทั้งคู่ ให้แจ้งพนักงานสอบสวน พร้อมประสาน ป.ป.ง เร่งอายัดยึดรถดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ขอเตือนผู้ที่จะซื้อรถของผู้ต้องหา จะเข้าข่ายข้อหารับซื้อของโจร ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ใกล้ชิด ที่ช่วยอำพรางทรัพย์สิน ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวต่อว่า นอกจากรถยังมีทรัย์สินอื่น เช่น เงินสด กระเป๋าแบรนด์เนม บ้านพัก มีมูลค่าสูงมาก คดีนี้ มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 904 คน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ใช้ผลิตภัณฑ์แล้วแพ้ และจ่ายเงินแล้วไม่ได้สินค้า รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 290 ล้าน คาดว่าจะมีผู้สียหายทยอยเข้าแจ้งความ
พ.ต.อ.วิระชัย ยังเปิดชื่อดารา นักแสดงและนักร้อง แถวหน้า 6 คนที่รับจ้างรีวิวสินค้าเครือเมจิกสกิน ประกอบด้วย เคน ภูภูมิ พงศ์ภาณุ, ศรีริต้า เจนเซ่น,น้ำชา ชีรณัฐ ยูสานนท์ ,คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์, เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา และสาวประเภอสอง -นิศามณี เลิศ วรพงศ์ โดยออกหมายเรียกมาให้ปากคำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 26 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงรายชื่อ มีการเปิดคลิปรีวิวสินค้าเครือเมจิกสกินของทั้ง 6 คนเพื่อเป็นการยืนยันอีกด้วย สำหรับกรณีรีวิวสินค้าเครือเมจิกสกิน มีการออกหมายเรียกดารานักแสดง นักร้อง เน็ตไอดอล รวม 25 คน โดยมาให้ปากคำบางส่วนแล้ว อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการของ อย.เพื่อดูสารประกอบในผลิตภัณฑ์ ก่อนพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหากับผู้ที่ถูกออกหมายเรียกหรือไม่อย่างไร.-สำนักข่าวไทย