กรุงเทพฯ 19 มี.ค.-หลังศาลปกครองกลางพิพากษาให้นายคทาวุทธ ครั้งพิบูลย์ หรือครูเคท ชนะคดีที่ฟ้องร้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่รับเข้าเป็นอาจารย์ เพราะมองว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้มหาวิทยาลัยต้องรับ “ครูเคท” เข้าทำงาน และมองว่าเรื่องนี้เป็นบรรทัดฐานใหม่ในการคัดเลือกคนเข้าทำงานที่ต้องชอบด้วยกฎหมาย
เสียงจากใจ “ครูเคท” ครูข้ามเพศ หลังชนะคดีที่ต่อสู้มาร่วม 3 ปี ศาลพิพากษาว่า แม้มีพฤติกรรมบางอย่างไม่เหมาะสม แต่ไม่ถึงขนาดเป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีที่มหาวิทยาลัยจะไม่รับทำงาน
ย้อนไปปี 56 “ครูเคท” สมัครและผ่านการคัดเลือกเป็นอาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยมองว่า ไม่สมควรว่าจ้าง เพราะครูโพสต์ภาพลิปสติกรูปอวัยวะเพศชายและข้อความที่ไม่เหมาะสม “ครูเคท” ไม่เห็นด้วยจึงมีหนังสืออุทธรณ์มติ แต่มหาวิทยาลัยยืนยันมติเดิม ปี 58 “ครูเคท” ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางและศาลมีคำพิพากษาต้นเดือนที่ผ่านมา
“ครูเคท” เล่าว่า ที่ผ่านมาทำงานเรียกร้องสิทธิ แต่สิ่งที่ตนเจอ สะท้อนว่าสังคมไทยยังปิดกั้นเรื่องความหลากหลายของเพศสภาพ โดยเฉพาะการทำงาน วันนี้ได้รับความเป็นธรรมและตั้งใจเป็นอาจารย์ที่ดี สอนเด็กให้เข้าใจและเปิดกว้างเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ และไม่ติดใจค่าเยียวยาใดๆ
คณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยฯ น้อมรับคำพิพากษา มีมติไม่อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และรับ “ครูเคท” เข้าเป็นอาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ศูนย์ลำปาง โดยจะทำสัญญาว่าจ้างภายใน 60 วัน และมองว่าคดีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่จะยึดเป็นแนวทางในคัดเลือกครูเข้าทำงาน พร้อมย้ำว่าธรรมศาสตร์ไม่กีดกันความแตกต่างของเพศ
ปัจจุบันสังคมเริ่มยอมรับ และเข้าใจเรื่องเพศสภาพมากขึ้น ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่ปัญหาแรกที่เกิดจากความต่างทางเพศสภาพ ก่อนหน้านี้มีกรณีนักศึกษาชาย มธ.ขอแต่งชุดครุยหญิงเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จนเกิดการถกเถียงในสังคมเผ็ดร้อน จนที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยมีมติไม่ปิดกั้นการแต่งชุดครุยไม่ตรงกับเพศเดิม โดยให้แต่ละสถาบันพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ต้องไม่กระทบกับสิทธิเสรีอันพึงมีในสังคม.-สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ