แท็กซี่สวมทะเบียน ตอน 1

กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-สำนักข่าวไทย ได้รับการร้องขอจากคนขับรถแท็กซี่ ให้ช่วยติดตามตัวเพื่อนร่วมอาชีพคนหนึ่ง ที่ขับรถชนแล้วหนี ตรวจสอบรถที่ชนเป็นรถสวมทะเบียน เขาได้แจ้งความแล้วนานถึง 4 เดือน แต่คดีไม่ดืบหน้า


“ชาญชัย บุญมี” วัย 35 ปี คนขับรถแท็กซี่ย่านนนทบุรี พาพ่อวัยชราเดินเข้ากองปราบปราม เพื่อพบกับทีมข่าวอาชญากรรม สำนักข่าวไทย ร้องขอความช่วยเหลือเป็นสื่อกลางติดตามความคืบหน้าคดีรถแท็กซี่เฉี่ยวชนแล้วหนี เมื่อกันยายนปีที่แล้ว หลังคดีไม่มีความคืบหน้ามานานกว่า 4 เดือน พร้อมขอให้ช่วยติดตามตัวคนขับคู่กรณี ที่หนีหายไม่ยอมมาเจรจา


“ชาญชัย” เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นว่า ช่วง 05.00 น.ของวันที่ 2 กันยายน ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ว่าถูกรถชนแยกคอนโดฯ พี 3 เมืองทองธานี จึงรีบออกไปดู พบคนขับรถคู่กรณีนั่งอยู่ในรถ ไม่ยอมลงมาเจรจา อ้างจะรีบไปรับลูกค้า ด้วยเห็นว่าเป็นคนอาชีพเดียวกัน ลูกค้าประจำเป็นสิ่งสำคัญมาก จะสายไม่ได้ จึงยอมให้ไป โดยขอเบอร์โทรศัพท์เพื่อนัดหมายเจรจาในภายหลัง ก่อนถ่ายบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐาน ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายออกทำมาหากิน


หลังผ่านไป 1 สัปดาห์ พยายามติดต่อคู่กรณี แต่ไม่ยอมรับสาย รู้ตัวถูกเพื่อนร่วมอาชีพหลอกชนแล้วหนี จึงแจ้งความ สภ.ปากเกร็ด เจ้าของท้องที่ ตำรวจเช็กหมายเลขทะเบียนรถจากกรมการขนส่งทางบก ได้หมายเลขโทรศัพท์อีกเบอร์ จึงโทรหาทวงถามความรับผิดชอบ

แต่กลับตาลปัตร เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์แบบงงๆ ระบุไม่ใช่คนชน ไม่เคยไปบริเวณที่เกิดเหตุ เมื่อส่งรูปรถคู่กรณีให้ดู จึงรู้ว่าเสียงปลายสายไม่ใช่คนในรูปบัตรประชาชน และรถทะเบียนดังกล่าวอยู่สมุทรปราการ ตนโดนรถเถื่อนชนเข้าแล้ว

“อดุลย์ สิงห์ไธสง” คนขับรถแท็กซี่ที่ถูกสวมทะเบียน ด้วยความตกใจ หลังรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ต้องหาขับรถชนแล้วหนี จากเพื่อนร่วมอาชีพซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหาย และยังเห็นภาพแท็กซี่คันก่อเหตุที่ใช้ป้ายทะเบียนรถตนเองแล้ว จึงติดต่อกรมการขนส่งทางบก เพื่อร้องเรียนสิ่งที่เกิดขึ้นทันที เจ้าหน้าที่ขนส่งแนะนำให้รีบแจ้งความลงบันทึกประจำวันโดยด่วน แต่ตำรวจ สภ.บางปู กลับปฏิเสธรับแจ้งความ อ้างไม่ใช่พื้นที่เกิดเหตุ จากนั้น 6 ตุลาคม หลังรู้ตัวว่าตกเป็นผู้ต้องหาขับรถชนแล้วหนีเพียง 1วัน จึงไปแสดงตัวกับคู่กรณี และพบพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด พร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับคนขับรถสวมป้ายทะเบียนรถ

“ชาญชัย และอดุลย์” ซึ่งตกอยู่ในฐานะผู้เสียหาย มีคู่กรณีเดียวกัน จึงประสานความร่วมมือช่วยกันติดตามข่าวคราวและติดตามความคืบหน้าจากพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เรื่อยมา หวังตำรวจจะสามารถจับกุมตัวแท็กซี่เถื่อนคู่กรณีมาลงโทษและรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย แต่เวลาล่วงเลยมานานกว่า 4 เดือน กลับไม่มีความคืบหน้า ผู้ต้องหายังคงหลบหนี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน