รัฐสภา 22 ก.พ.- สนช.มีมติไม่ให้ความเห็นชอบ กกต.ที่ได้รับการสรรหาทั้ง 7 คน หลังประชุมลับซักถามประวัติ ความประพฤติจากคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ส่งผลให้ต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่อีกครั้ง ด้าน “พรเพชร” ระบุในฐานะกรรมการสรรหา ตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่ กกต. 7 คนครบถ้วนตามกฎหมาย ยืนยันไม่มีใบสั่งแน่ เชื่อไม่กระทบโรดแมปการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้ (22 ก.พ.) ใช้เวลาในการประชุมลับ ประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อพิจารณาผู้ได้รับการสรรหาเป็น กกต.ทั้ง 7 คน โดยได้มีการซักถามรายละเอียดจากคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมี พล.อ.อู๊ด เบื้องบน เป็นประธาน
จากนั้นที่ประชุมได้ลงคะแนนลับในคูหา ปรากฎว่าไม่มีผู้ใดได้รับคะแนนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ 248 คน คือ 124 คะแนน เท่ากับผู้ที่ได้รับการสรรหาทั้ง 7 คนไม่ได้รับการเลือกเป็น กกต. คือ 1.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ได้คะแนนเห็นชอบ 27 คะแนน ไม่เห็นชอบ 156 คะแนน งดออกเสียง 18 คะแนน 2.นายประชา เตรัตน์ ได้คะแนนเห็นชอบ 57 คะแนน ไม่เห็นชอบ 125 คะแนน งดออกเสียง 19 คะแนน 3.นายเรืองวิทย์ เกษสุวรรณ ได้คะแนนเห็นชอบ 10 คะแนน ไม่เห็นชอบ 175 คะแนน งดออกเสียง 15 คะแนน 4.นางชมพรรณ์ พงษ์เจริญ สุธีรชาติ ได้คะแนนเห็นชอบ 16 คะแนน ไม่เห็นชอบ 168 คะแนน งดออกเสียง 17 คะแนน 5.นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ เห็นชอบ 30 คะแนน ไม่เห็นชอบ 149 คะแนน งดออกเสียง 22 คะแนน 6.นายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี ได้คะแนนเห็นชอบ 46 คะแนน ไม่เห็นชอบ 128 คะแนน งดออกสียง 27 คะแนน และ 7.นายปกรณ์ มหรรณพ ได้คะแนนเห็นชอบ 41 คะแนน ไม่เห็นชอบ 130 คะแนน งดออกเสียง 30 คะแนน
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวชี้แจงกรณี สนช.ลงมติไม่เห็นชอบรายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอให้เป็น กกต.ทั้ง 7 คน ว่า ตนในฐานะกรรมการสรรหา ได้พิจารณาคุณสมบัติของบุคคลทั้ง 7 อย่างดีที่สุด ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อถึงมือ สนช.ต้องตรวจเรื่องจริยธรรมและความประพฤติด้วย จึงไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของ สนช. เพราะตนเป็นกรรมการสรรหา จึงไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
นายพรเพชร กล่าวยืนยันว่า ไม่มีสัญญาณ หรือใบสั่งมาจาก คสช. หรือจากใคร ในการไม่ให้ความเห็นชอบดังกล่าว ที่สำคัญการไม่เห็นชอบ กกต.ครั้งนี้ ไม่กระทบกับโรดแมปการเลือกตั้ง เพราะ กกต.ชุดเดิมยังทำหน้าที่ได้ ส่วนกระบวนการสรรหาใหม่ 5 คนแรก จะใช้กรรมการสรรหาชุดเดิม และเริ่มกรอบเวลาสรรหา 90 วันทันทีนับจากวันนี้ (22 ก.พ.) ส่วน 2 คนที่มาจากความเห็นชอบของที่ประชุมศาลฎีกา ก็มีกรอบเวลา 90 วันเช่นกัน
“ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจ อยากให้คนที่มีคุณสมบัติที่ดี มีความรู้ มีจริยธรรมมาสมัครมาก ๆ จึงเตรียมเสนอที่ประชุมกรรมาการสรรหา ให้ขยายเวลารับสมัครเพิ่มและควรขยายช่องทางการประชาสัมพันธ์ ให้กลุ่มอาชีพอื่น เช่น พยาบาล วิศวกร สถาปนิก นักบัญชี ที่ทำงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปีขึ้นไป มาสมัครด้วย เพราะที่ผ่านมาจะมีเฉพาะข้าราชการ และทนายความเท่านั้น ซึ่งไม่หลากหลาย และเมื่อเจอคุณสมบัติที่สูง เช่น ต้องเป็นอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการมาไม่น้อยกว่า 5 ปี ทำให้ขาดคุณสมบัติ ส่วนวิธีการเชิญมาเป็นนั้น ผมยังไม่กล้าทำ เนื่องจากเกรงว่าไปชวนมาแล้ว สนช.กลับไม่เห็นชอบ จะทำอย่างไร” นายพรเพชร กล่าว.-สำนักข่าวไทย