fbpx

พาณิชย์เผยตัวเลขการค้าภายใต้เอฟทีเอขยายตัวก้าวกระโด

นนทบุรี  11 ก.พ. – พาณิชย์เปิดตัวเลขการค้าไทยกับประเทศคู่ค้าเอฟทีเอขยายตัวแบบก้าวกระโดด ชี้เอฟทีเอไทย–อาเซียน โตกว่าร้อยละ  707  ส่งออกปี 60 ทะยานกว่า 59,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถิติการค้าที่มีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) พบว่ามูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยกับประเทศคู่เอฟทีเอมีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยเอฟทีเอที่ไทยทำกับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนหรืออาฟต้า ถือเป็นเอฟทีเอที่มีมูลค่าการค้าขยายตัวสูงสุด จากทั้งหมด 12 ฉบับ โดยมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับอาเซียนขยายตัวกว่าร้อยละ 707 นับตั้งแต่ความตกลง อาฟต้ามีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2536 โดยปี 2560 การส่งออกของไทยไปประเทศสมาชิกอาเซียน มีมูลค่า 59,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกล เป็นต้น


สำหรับมูลค่าการค้าและการส่งออกของไทยกับประเทศคู่เอฟทีเอที่มีการขยายตัวระดับรองลงมาคือ เอฟทีเอไทย-อินเดีย (TIFTA) มีมูลค่าการค้าขยายตัวกว่าร้อยละ 406 นับตั้งแต่มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2547 โดยปี 2560 มูลค่าการส่งออกของไทยไปอินเดียอยู่ที่ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องจักรกล เป็นต้น  อันดับ 3 คือ เอฟทีเออาเซียน–จีน หรือ ACFTA มีอัตราการเติบโตของการค้าอยู่ที่ร้อยละ 262 นับจากมีผลใช้บังคับเมื่อกรกฎาคม 2548 มูลค่าการส่งออกของไทยไปจีนปี 2560 สูงถึง 29,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ คือ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ และ เคมีภัณฑ์ 

ขณะที่อันดับ 4 และ 5 ได้แก่ เอฟทีเอไทย–นิวซีแลนด์ และไทย-ออสเตรเลีย โดยในส่วนเอฟทีเอไทย–นิวซีแลนด์ มูลค่าการค้าขยายตัวร้อยละ 194.8 นับจากบังคับใช้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2548 โดยมูลค่าการส่งออกจากไทยไปนิวซีแลนด์ปี 2560 อยู่ที่ 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เหล็ก และผลิตภัณฑ์ยาง สำหรับเอฟทีเอ ไทย-ออสเตรเลีย มูลค่าการค้าขยายตัวถึงร้อยละ 132 นับจากบังคับใช้เมื่อมกราคม 2548 โดยมูลค่าการส่งออกของไทยไปยังออสเตรเลียปี 2560 สูงถึง 10,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และอาหารทะเลกระป๋อง


ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตของมูลค่าการค้ากับประเทศคู่ค้าที่ไทยยังไม่ได้มีการทำเอฟทีเอเช่น สหรัฐ และสหภาพยุโรป (อียูป พบว่า ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ และไทยกับอียูเติบโตร้อยละ 61.2 และร้อยละ 31.6 ซึ่งเป็นตัวเลขการขยายตัวของมูลค่าการค้าระดับที่ต่ำกว่าประเทศที่ไทยมีการทำเอฟทีเอ 

นางอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า เอฟทีเอที่ไทยลงนามและมีผลบังคับใช้กับประเทศคู่ค้า 12 ฉบับ ประกอบด้วย ความตกลงเอฟทีเอ ระดับทวิภาคี 6 ฉบับ ได้แก่ ไทย-อินเดีย ไทย-ออสเตรเลีย ไทย-นิวซีแลนด์ไทย-ญี่ปุ่น ไทย-เปรู และไทย-ชิลี และความตกลงเอฟทีเอระดับภูมิภาค 6 ฉบับ ได้แก่ อาเซียน อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลี อาเซียน-ออสเตรเลีย อาเซียน-นิวซีแลนด์ และอาเซียน-อินเดีย โดยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการเปิดตลาดการค้าสินค้าที่คู่เอฟทีเอจะต้องลดภาษีสินค้ามากกว่าร้อยละ 90 ของรายการสินค้าทั้งหมดให้เหลือศูนย์ แต่สำหรับกรณีเอฟทีเอไทย–อินเดีย ยังเป็นเพียงการลดภาษีศุลกากรสินค้าเพียง 83 รายการ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553